คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยมีกำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี และมีข้อตกลงกันโดยจำเลยยินยอมให้โจทก์ต่อสัญญาขายฝากใหม่และจะเพิ่มเงินให้ด้วย แต่ที่ยังไม่ไปทำสัญญากันใหม่เพราะจำเลยป่วย เช่นนี้ โจทก์จะมาฟ้องขอไถ่เมื่อพ้นกำหนด 1 ปีโดยถือว่าจำเลย โดยถือว่าจำเลยผิดสัญญาหรือใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาขายฝากที่ดิน ๒ แปลงไว้กับจำเลยเป็นเงิน ๒๖,๐๐๐ บาท กำหนดไถ่ภายใน ๑ ปีและมีข้อตกลงกันโดยจำเลยยอมให้โจทก์ทำสัญญาขายฝากต่อใหม่โดยจำเลยเพิ่มเงินให้โจทก์อีก ๖,๐๐๐ บาทก่อนครบกำหนดสัญญา โจทก์ไปขอไถ่ถอน จำเลยว่าจะเพิ่มเงินให้และขอผัดทำสัญญา ต่อมาจำเลยกลับปฏิเสธขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ไถ่ถอนการขายฝาก
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ไม่ใช้สิทธิไถ่ถอนการขายฝากเอง พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้หากข้อเท็จจริงจะเป็นตามคำเบิกความของโจทก์ก็ยังไม่เป็นเหตุผลพอที่จะให้ถือได้ว่าจำเลยได้มีเจตนาทุจริตใช้เพทุบายหลอกลวงเบี่ยงบ่าย หรือทำให้สิทธิไถ่ถอนยืดออกไปดังฎีกาโจทก์ไม่ ข้อเท็จจริงคงได้ความเพียงว่าจำเลยยินยอมจะเพิ่มเงินและจะทำสัญญาให้ใหม่ตามที่โจทก์ขอร้อง แต่ที่ยังไม่ไปทำเพราะจำเลยป่วย โจทก์ก็ยินยอม มิได้เร่งรัดให้จำเลยไปทำสัญญากันใหม่ภายในกำหนดอายุไถ่ถอน และเมื่อจำเลยยังไม่ไปทำสัญญาใหม่ โจทก์ก็ควรจัดการไถ่ถอนเสียภายในกำหนด แต่โจทก์กลับละเลยไม่ใช้สิทธิของตนเอง ปล่อยให้เวลาไถ่ถอนล่วงพ้นไปโดยเข้าใจว่าจำเลยผ่อนผันเวลาให้ ดังนี้ จะถือว่าเป็นกรณีจำเลยผิดสัญญาขายฝากไม่ยอมรับไถ่และใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหาได้ไม่ เมื่อโจทก์ยินยอมให้เวลาใช้สิทธิไถ่พ้นไปจากกำหนดแล้ว ก็ต้องรับสนองในการนั้น โจทก์จึงไถ่ไม่ได้ และจะถือว่าได้ตกลงยืดเวลาไถ่ถอนกันไปก็ไม่ได้ เพราะขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๙๖
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share