คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยโยนผู้เสียหายซึ่งกำลังมึนงงหมดแรงเพราะยาสลบของจำเลยลงในคลองซึ่งมีน้ำลึกท่วมศีรษะพฤติการณ์ดังนี้ส่อเจตนาของจำเลยว่าจะฆ่าผู้เสียหายโดยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้เสียหายจมน้ำตาย เพราะเข้าใจว่าผู้เสียหายกำลังอยู่ในภาวะมึนงงไม่มีแรงจะว่ายน้ำได้ อันเป็นวิธีฆ่าที่อาจอำพรางคดีได้แนบเนียนยิ่งวิธีหนึ่ง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 80, 289, 340, 340 ตรี
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพฐานปล้นทรัพย์ ปฏิเสธฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 83 จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 340 วรรคสอง, 340 ตรี, 83 ยกข้อหาอื่น
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 83 จำเลยที่ 3 มีความผิดตาม มาตรา 340 วรรคสอง, 340 ตรี, 83 และจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 80 ลงโทษตามมาตรา289, 80 ซึ่งเป็นบทหนัก
จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 โยนนายเฉมซึ่งกำลังมึนงงหมดแรงเพราะยาสลบของจำเลยลงในคลองซึ่งมีน้ำลึกท่วมศีรษะนายเฉม นายเฉมเกาะเสาสะพานและอาศัยฐานเสานั้นยืนศีรษะพ้นน้ำพอดี พฤติการณ์นี้จึงส่อเจตนาของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ที่จะฆ่านายเฉมโดยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้นายเฉมจนน้ำตายเพราะเข้าใจว่านายเฉมกำลังอยู่ในภาวะมึนงง ไม่มีแรงจะว่างน้ำได้ อันเป็นวิธีฆ่าที่อาจอำพรางคดีได้แนบเนียนยิ่งวิธีหนึ่ง การที่จำเลยไม่เลือกห่าโดยวิธีอื่นจึงมีทางเป็นไปได้ ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share