คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีไปกู้หนี้เขามา แล้วภรรยาโอนทรัพย์สินของตนให้แก่ผู้อื่นเสียโดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ เจ้าหนี้ขอให้เพิกถอนนิติกรรมได้ เพราะในกรณีเช่นนี้ถืวว่าภรรยาตกอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับสามีด้วย

ย่อยาว

เดิมจำเลยเป็นหนี้โจทก์เรื่องเงินกู้โจทก์จึงนำยึดที่นารายพิพาทนี้ ผู้ร้องจึงร้องขัดทรัพย์
ทางพิจารณาได้ความว่า ที่รายนี้เดิมเป็นของ ส.ภรรยาจำเลยมีชื่อเป็นเจ้าของอยู่ในโฉนดแต่ผู้เดียว แต่จะเป็นทรัพย์ชนิดใดระหว่างสามีภรรยาไม่ปรากฎ ก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้เดือนเศษ ส.ได้โอนที่รายนี้ให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตร์ ทั้งนี้โดยทราบอยู่แล้วว่าจำเลยเป็นหนี้เงินกู้โจทก์อยู่
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องขัดทรัพย์
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับว่าโจทก์มีสิทธิยึดที่นารายพิพาทนี้ได้
ผู้ร้องฎีกาว่าตามประมวลแพ่งฯ ม.๒๓๗ เจ้าหนี้จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมได้จะต้องเป็นลูกหนี้โอนทรัพย์โดยรู้อยู่ว่าเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ คดีนี้ ส.มิได้เป็นลูกหนี้โจทก์ด้วย
ศาลฎีกาเห็นว่าตามหลักกฎหมายในลักษณผัวเมีย ส.ซึ่งเป็นภรรยาจำเลยย่อมรับผิดในหนี้รายนี้ร่วมกับจำเลยด้วย ฉะนั้นจึงตกอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้โจทก์ด้วยรูปคดีเข้ามาตรา ๒๓๗ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share