แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิตปลอกกระสุนปืนของกลางริบ โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ปลอกกระสุนปืนของกลางโจทก์ไม่ได้ขอให้ริบ จึงไม่ริบ ดังนี้ คดีย่อมถึงที่สุดแล้ว จำเลยฎีกาไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันมีอาวุธปืนไปปล้นทรัพย์ของผู้ตาย โดยจำเลยกับพวกใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายเพื่อสะดวกในการปล้นทรัพย์ การพาเอาทรัพย์นั้นไป ฯลฯ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจพบปลอกกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จำนวน 5 ปลอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุและยึดไว้เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 340, 83 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ทายาทของผู้ตาย
จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(6) และมาตรา 340 วรรคท้าย แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 289(6)อันเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 วางโทษประหารชีวิตคำให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้างลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 52(1) คงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ปลอกกระสุนปืนของกลางริบให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ทายาทของผู้ตาย
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 วรรค 2
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ปลอกกระสุนปืนของกลางโจทก์ไม่ได้ขอให้ริบจึงไม่ริบ
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต โจทก์จำเลยต่างไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา และศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างศาลชั้นต้นว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง จึงพิพากษายืน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 วรรค 2 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย