คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เมื่อได้ร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ แม้จะพ้น 10 ปีคำพิพากษาก็ไม่สิ้นผลบังคับ

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีคงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่าโจทก์จะต้องดำเนินการบังคับคดีให้แล้วเสร็จภายในสิบปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 บัญญัติว่า “ถ้าคู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายแพ้คดี (ลูกหนี้ตามคำพิพากษา) มิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลทั้งหมดหรือบางส่วนคู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ภายในสิบปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง โดยอาศัยและตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น” ข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2508คดีถึงที่สุด โจทก์ร้องขอให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2517 จึงยังไม่เกินสิบปีตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 บทกฎหมายดังกล่าวมิได้มีความหมายว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องดำเนินการบังคับคดีแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้แล้วเสร็จภายในสิบปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่งดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง เมื่อโจทก์ร้องขอให้บังคับคดีภายในกำหนดสิบปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจดำเนินการบังคับคดีต่อไปจนแล้วเสร็จ แม้จะพ้นกำหนดสิบปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง และหาทำให้คำพิพากษาตามยอมสิ้นผลบังคับไม่ ทั้งนี้ตามนัยแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2519 ระหว่าง นายลาลาปานเด โจทก์นางรามา จำเลย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

ที่ผู้ร้องฎีกาว่า หนี้ของผู้ร้องเป็นหนี้อุปกรณ์ เมื่อหนี้การกู้เงินของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นประธานขาดอายุความแล้ว หนี้ของผู้ร้องย่อมขาดอายุความด้วยนั้น เห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีตามชอบและคดีถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องจึงไม่อาจยกเรื่องดังกล่าวตั้งเป็นประเด็นให้ศาลวินิจฉัยในชั้นบังคับคดีได้อีก”

พิพากษายืน

Share