คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยมิได้คัดค้านการอ้างเอกสารเป็นพยานของโจทก์เสียก่อนวันสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125 ก็เป็นเพียงการห้ามมิให้คู่ความฝ่ายนั้นคัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสารเมื่อพ้นกำหนดเวลาเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับให้ศาลต้องยอมรับว่าความจริงเป็นดังเอกสารนั้นไม่ เพราะความจริงเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องฟังจากพยานหลักฐานอีกชั้นหนึ่งต่างหากซึ่งตามมาตรา 104 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจเต็มที่ในอันที่จะวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบนั้นจะเกี่ยวกับประเด็นและเป็นอันเพียงพอให้เชื่อฟังเป็นยุติได้หรือไม่แล้วพิพากษาคดีไปตามนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยซึ่งเป็นนายอำเภอกุฉินนารายณ์และบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยรื้อถอนศาลาออกไปและให้จำเลยออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 โจทก์ถึงแก่กรรมนายนวน ใจอ่อน สามีโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาต
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่รับฟังเนื้อที่ดินตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เอกสารหมาย จ.2 แล้วฟังว่าตามสำเนาทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเอกสารหมาย จ.5 มิได้ระบุว่าแบ่งขายหรือขายเฉพาะส่วน จึงวินิจฉัยว่าโจทก์ขายที่ดินทั้งแปลง และฟังว่าสำเนาแผนที่หนองเลิงซิวสาธารณประโยชน์เอกสารหมาย จ.6 ไม่ถูกต้องเป็นการฝ่าฝืนและขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125หรือไม่ เห็นว่า แม้จำเลยมิได้คัดค้านการอ้างเอกสารเป็นพยานของโจทก์เสียก่อนวันสืบพยานตามมาตรานี้ก็เป็นเพียงการห้ามมิให้คู่ความฝ่ายนั้นคัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสารเมื่อพ้นกำหนดเวลาเท่านั้น หาใช่เป็นบทบังคับให้ศาลต้องยอมรับว่าความจริงเป็นดังเอกสารนั้นไม่ เพราะความจริงเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องฟังจากพยานหลักฐานอีกชั้นหนึ่งต่างหากซึ่งตามมาตรา104 บัญญัติว่า ให้ศาลมีอำนาจเต็มที่ในอันที่จะวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบนั้นจะเกี่ยวกับประเด็นและเป็นอันเพียงพอให้เชื่อฟังเป็นยุติได้หรือไม่แล้วพิพากษาคดีไปตามนั้น ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ใช้ดุลพินิจพิจารณาเอกสารดังกล่าวแล้ววินิจฉัยว่า ข้อความบางส่วนในเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้อง จึงชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share