แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อเสร็จการขายจำเลยที่ 1 ค้านว่าราคาสูงสุดที่ได้ยังต่ำไปขอให้ขายใหม่เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอศาลขออนุญาตขายแก่ผู้ให้ราคาสูงสุดศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขาย การที่จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่าราคาที่ขายต่ำไปนั้น เท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยมิชอบอันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง กรณีจำต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และ 296 วรรคสองจำเลยทั้งสองต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงแต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นเมื่อจำเลยทั้งสองเพียงแต่คัดค้านการขายทอดตลาดต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จำเลยทั้งสองจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ตามสัญญายืม ค้ำประกัน จำนอง ต่อมาโจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยจำเลยทั้งสองยอมร่วมกันชำระหนี้ให้โจทก์จำนวน 956,911.36 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ15 ต่อปีของเงินจำนวน 794,779.66 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์ พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมส่วนที่ศาลไม่สั่งคืนและค่าทนายความจำนวน 4,000 บาท แก่โจทก์ โดยจะชำระให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2533 หากผิดนัดยอมให้โจทก์บังคับคดีนำทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดได้ทันที หากขายได้ไม่พอชำระหนี้ ให้โจทก์ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยทั้งสองชำระจนครบถ้วนศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองผิดนัด โจทก์จึงขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีและนำยึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3ก.) เลขที่ 3201 และ 3202 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดรวม 4 ครั้งครั้งสุดท้ายโจทก์เป็นผู้สู้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 1,100,000 บาทเมื่อเสร็จการขายจำเลยที่ 1 ค้านว่าราคายังต่ำไป ราคาที่เหมาะสมควรขายได้ 1,500,000 บาท ขอให้ขายใหม่ โจทก์ค้านว่าเป็นการขายครั้งที่ 4 จำเลยค้านว่าราคาต่ำแต่ก็มิได้หาผู้ซื้อในราคาที่พอใจได้ จึงเป็นราคาที่สมควรแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานต่อศาลเพื่อให้พิจารณาสั่งขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลให้โอกาสจำเลยหาคนมาสู้ราคาตามราคาที่จำเลยกล่าวอ้างแล้วถึง 4 ครั้ง จำเลยก็หาไม่ได้และไม่มีผู้ใดมาสู้ราคาถึงเช่นนั้น โจทก์ให้ราคาสูงกว่าครั้งที่แล้วอนุญาตให้ขายได้
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองคืนค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดให้จำเลยทั้งสอง ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเพื่อให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่าราคาที่ขายต่ำไป และจำเลยทั้งสองได้แถลงคัดค้านการขายไว้แล้ว กรณีมิใช่เป็นเรื่องคัดค้านว่า การขายทอดตลาดเป็นไปโดยมิชอบที่จะต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลภายใน 8 วันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธิอุทธรณ์ได้ซึ่งศาลอุทธรณ์ชอบที่จะรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไว้วินิจฉัยนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่าราคาที่ขายต่ำไปนั้นเท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยมิชอบอันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง กรณีจำต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และ 296 วรรคสอง จำเลยทั้งสองต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงแต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น เมื่อจำเลยทั้งสองเพียงแต่คัดค้านการขายทอดตลาดต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จำเลยทั้งสองจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ