คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1487/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การว่าการมอบอำนาจ (ให้ฟ้องคดี) ของโจทก์ไม่ถูกต้อง เพราะการมอบอำนาจไม่สมบูรณ์และไม่มีผลตามกฎหมาย มิได้ยกเหตุขึ้นกล่าวอ้างในคำให้การว่า เพราะเหตุใดการมอบอำนาจของโจทก์จึงไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ และไม่มีผลตามกฎหมาย เป็นคำให้การแต่เพียงปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์เท่านั้น มิได้แสดงถึงเหตุแห่งการปฏิเสธไม่มีสิทธินำสืบถึงเหตุแห่งการนั้น จำเลยจึงไม่มีสิทธินำสืบในประเด็นที่ว่าตราที่ประทับในใบมอบอำนาจเป็นตราปลอม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลโดยได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด โจทก์ฟ้องคดีนี้โดยนายบัณฑร กับนายสุจินต์กรรมการของบริษัทมอบอำนาจให้นายสุเมธเป็นผู้ดำเนินคดีแทน จำเลยที่ 2 เป็นนิติบุคคล โดยมีนายเชิยชัยจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการ จำเลยที่ 1 ได้นำเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็ค มาแลกเงินสดไปจากโจทก์ เมื่อถึงกำหนดเวลาชำระเงินตามเช็ค โจทก์ได้นำเช็คเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยแจ้งว่า “บัญชีปิดแล้ว” ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชำระเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน คือวันที่ 2 เมษายน 2519 จนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยไม่รับรองการเป็นนิติบุคคลของโจทก์การมอบอำนาจของโจทก์ไม่ถูกต้อง เพราะการมอบอำนาจไม่สมบูรณ์และไม่มีผลตามกฎหมายโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เหตุการณ์ตามมูลฟ้องคดีนี้ล่วงเลยมานาน จำเลยไม่เคยออกเช็ครายพิพาทนี้ไม่ว่าในฐานะส่วนตัวหรือฐานะผู้จัดการของจำเลยที่ 2 เพื่อแลกเงินสดจากโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย

จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คจำนวน50,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 2 เมษายน 2519 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์ ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความให้ 800 บาท

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าจำเลยมีสิทธินำสืบในประเด็นที่ว่า ตราของบริษัทโจทก์ที่ประทับในใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้เป็นตราปลอมได้ ใบมอบอำนาจของโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธลอย ๆ ว่าการมอบอำนาจของโจทก์ไม่ถูกต้อง เพราะการมอบอำนาจไม่สมบูรณ์และไม่มีผลตามกฎหมายจำเลยที่ 1 มิได้ยกเหตุขึ้นกล่าวอ้างในคำให้การว่า เพราะเหตุใดการมอบอำนาจของโจทก์จึงไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์และไม่มีผลตามกฎหมาย จึงเป็นคำให้การแต่เพียงปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์เท่านั้น มิได้แสดงถึงเหตุแห่งการปฏิเสธ ไม่มีสิทธินำสืบถึงเหตุแห่งการปฏิเสธนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่า กรรมการบริษัทโจทก์ 2 นายได้ลงชื่อและประทับตราของบริษัทโจทก์มอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีนี้ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทโจทก์แล้ว ข้อเท็จจริงก็ฟังได้ตามนั้น จำเลยไม่มีสิทธินำสืบในประเด็นที่ว่าตราที่ประทับในใบมอบอำนาจเป็นตราปลอม ศาลล่างทั้งสองพิพากษาคดีชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share