แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบุกรุกห้องเช่าที่ผู้เสียหายเช่ามา ขอให้ลงโทษฐานบุกรุกทางอาญา เมื่อผู้เสียหายแถลงรับว่าจำเลยเป็นภรรยาผู้ให้เช่าและเป็นผู้ดูแลสถานที่ ที่ผู้เสียหายเช่าอยู่ ผู้เสียหายว่าได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่ง จำเลยว่าเช่าเพียงหนึ่งคูหา ดังนี้ แม้จะให้สืบพยานต่อไปและได้ความว่า ผู้เสียหายได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่ง มิใช่หนึ่งคูหา ดังที่จำเลยกล่าวก็เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่า อันเป็นกรณีแพ่งนั่นเอง ศาลจึงพิพากษายกฟ้องเสียได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้องว่า จำเลยกับพวกบังอาจสมคบกันบุกรุกเข้าไปในห้องเช่าที่นางสวน ศักดิ์ศรี ได้เช่าไว้ โดยจำเลยกับพวกเอาตู้เข้าไปตั้งในเขตห้องเช่าโดยมิให้นางสวนผู้เช่าครอบครองห้องเช่าโดยปกติสุข ฯลฯ ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฎิเสธ แก้ว่า ได้ทำการกั้นเขตโดยมีอำนาจในสถานที่เขา เป็นการเถียงสิทธิในทางแพ่งมีใช่อาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีการพิจารณ์แล้ว เรื่องนี้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ได้แถลงรับว่าจำเลยเป็นภรรยาเจ้าของโรงแรมและเป็นผู้ดูแลโรงแรมสถานที่ที่โจทก์เช่าอยู่ผู้เสียหายว่าได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่ง จำเลยว่าเช่าเพียงหนึ่งคูหา แม้จะให้สืบพยานต่อไปและได้ความว่า ผู้เสียหายได้เช่าหนึ่งคูหาครึ่งจริง ก็เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยมิได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่า อันเป็นกรณีแพ่ง ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้อง ชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน