คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486-1487/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซื้อปุ๋ยจากจำเลย จำเลยส่งมอบปุ๋ยให้โจทก์ตรวจรับตามจำนวนและคุณภาพถูกต้องแล้ว การที่จำเลยเก็บรักษาปุ๋ยไว้ ณ โกดังของจำเลยเพื่อรอจ่ายให้แก่ผู้รับตามใบสั่งจ่ายปุ๋ยของโจทก์เป็นคราว ๆ จนกว่าจะครบจำนวน ถือได้ว่าจำเลยรับฝากปุ๋ยของโจทก์ไว้ จำเลยจะต้องคืนปุ๋ยให้แก่โจทก์หรือจ่ายให้แก่ผู้รับซึ่งถือใบสั่งจ่ายของโจทก์ตามข้อตกลง การที่จำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้ถือใบสั่งจ่ายปุ๋ยซึ่งลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายและตราของโจทก์ที่ประทับเป็นของปลอม ถือได้ว่าจำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้อื่นผิดไปจากข้อตกลง จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันมา สำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่า โจทก์ตกลงซื้อปุ๋ยเคมีจากจำเลยจำนวน 20,000 ตัน มีข้อตกลงว่าจำเลยต้องส่งปุ๋ยให้แก่โจทก์ ณ โกดังของจำเลย เมื่อโจทก์ตรวจรับถูกต้องแล้วจำเลยจะเก็บรักษาปุ๋ยไว้ ณ โกดังของจำเลยเพื่อรอตรวจพิเคราะห์ ถ้าผลการตรวจปรากฏว่าปุ๋ยมีคุณภาพถูกต้อง จำเลยจะเก็บรักษาปุ๋ยไว้ ณ สถานที่เดิมเพื่อรอให้โจทก์ออกใบสั่งจ่ายปุ๋ยให้แก่กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรผู้สั่งซื้อฯ นำไปรับปุ๋ยจากเจ้าหน้าที่ของจำเลย ณ โกดังของจำเลยเป็นคราว ๆจนกว่าจะครบจำนวน จำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้รับตามใบสั่งจ่ายของโจทก์เพียง19,421.40 ตัน แล้วจำเลยไม่ยอมจ่ายปุ๋ยที่เหลือให้แก่ผู้รับ ขอให้บังคับจำเลยคืนปุ๋ยที่เหลือหรือชดใช้ราคาแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยขายปุ๋ยและได้ทำสัญญาซื้อขายปุ๋ยตามฟ้องจริงแต่โจทก์ได้ออกใบสั่งจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้รับและผู้รับได้รับปุ๋ยจากจำเลยหมดสิ้นแล้วขอให้ยกฟ้อง

สำนวนที่สองโจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงซื้อปุ๋ยจากโจทก์จำนวน 20,000 ตันราคาเมตริกตันละ 2,800 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 56,000,000 บาท เมื่อจำเลยตรวจรับถูกต้องแล้ว โจทก์จะเก็บรักษาปุ๋ยไว้ ณ โกดังของโจทก์เพื่อรอจ่ายให้แก่ผู้รับ โดยจำเลยจะออกใบสั่งจ่าย โจทก์ส่งมอบปุ๋ยให้แก่จำเลยตามสัญญาจำเลยได้รับปุ๋ยไปจากโจทก์เกินจำนวนปุ๋ยตามสัญญาซื้อขายไป 141.40 ตันขอให้จำเลยคืนปุ๋ย 141.40 ตัน หรือใช้ราคา

จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้รับปุ๋ยจากโจทก์เกินจำนวน ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ในการพิจารณา ศาลชั้นต้นเรียกโจทก์สำนวนแรกและจำเลยสำนวนที่สองว่า “โจทก์” กับเรียกจำเลยสำนวนแรกและโจทก์สำนวนที่สองว่า “จำเลย”

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน

โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ในสำนวนแรก ให้จำเลยคืนปุ๋ยให้แก่โจทก์ 578.60 ตัน หรือใช้ราคา

จำเลยสำนวนแรกและโจทก์สำนวนที่สองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ซื้อปุ๋ยจากจำเลย จำเลยส่งมอบให้โจทก์ตรวจรับจำนวนและคุณภาพถูกต้องแล้ว การที่จำเลยเก็บรักษาปุ๋ยไว้ ณ โกดังของจำเลยเพื่อรอจ่ายให้แก่ผู้รับตามใบสั่งจ่ายปุ๋ยของโจทก์เป็นคราว ๆ จนกว่าจะครบจำนวน ถือได้ว่าจำเลยรับฝากปุ๋ยของโจทก์ไว้ ซึ่งจำเลยจะต้องคืนปุ๋ยให้แก่โจทก์หรือจ่ายให้แก่ผู้รับ ซึ่งถือใบสั่งจ่ายของโจทก์ตามข้อตกลง การที่จำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้ถือใบสั่งจ่ายปุ๋ยพิพาทซึ่งลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายและตราของโจทก์ที่ประทับเป็นของปลอม ถือได้ว่าจำเลยจ่ายปุ๋ยให้แก่ผู้อื่นผิดไปจากข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลย แม้แบบพิมพ์ใบสั่งจ่ายปุ๋ยพิพาทจะพิมพ์จากแม่พิมพ์เดียวกันกับใบสั่งจ่ายปุ๋ยของโจทก์ ผู้รับปุ๋ยนำใบสั่งจ่ายปุ๋ยของโจทก์ไปรับปุ๋ยจากจำเลยไม่เรียงตามลำดับเลขที่ของใบสั่งจ่ายปุ๋ยเป็นเหตุให้จำเลยไม่อาจตรวจสอบจำนวนปุ๋ยที่คงเหลือในใบสั่งจ่ายปุ๋ยฉบับก่อนได้ ลายมือชื่อของนายศักดิ์ชาย สมศิริ ผู้สั่งจ่าย และตราของโจทก์ที่ประทับในใบสั่งจ่ายปุ๋ยพิพาทคล้ายคลึงกันมากกับลายมือชื่อของนายศักดิ์ชายและตราของโจทก์ที่ประทับในใบสั่งจ่ายปุ๋ยที่ถูกต้องฉบับอื่น ๆ ก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากหน้าที่ที่จะต้องคืนปุ๋ยให้แก่ผู้มีสิทธิที่จะรับคืน ทั้งไม่ปรากฏว่าพนักงานของโจทก์มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำใบสั่งจ่ายปุ๋ยพิพาท หรือผู้รับปุ๋ยตามใบสั่งปุ๋ยพิพาทเป็นพนักงานหรือลูกค้าของโจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิดเป็นส่วนตัวในการจ่ายปุ๋ยผิดพลาด และต้องคืนปุ๋ยจำนวน 578.60 ตัน หรือชดใช้ราคาปุ๋ยดังกล่าวให้แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share