แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีก่อนจำเลยฟ้องเรียกต้นเงินกู้เพราะดอกเบี้ยจากโจทก์อ้างว่าโจทก์ผิดสัญญา โจทก์ต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ได้ผิดสัญญาเพราะโจทก์มอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยแล้ว ต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลโดยโจทก์ยอมใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามฟ้อง ดังนี้ โจทก์จะมาฟ้องจำเลยเรียกค่าขายประโยชน์การทำนาอ้างว่ามอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยแล้วจำเลยมาฟ้องเรียกดอกเบี้ยอีก ทำให้โจทก์เสียหายนั้นไม่ได้ เพราะข้ออ้างที่ว่าโจทก์มอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยนั้นได้ระงับสิ้นไปแล้ว ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ และเมื่อศาลพิพากษาตามยอมแล้ว มีผลทำให้โจทก์ต้องห้ามมิให้รื้อร้องฟ้องกันอีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกค่าขาดประโยชน์การทำนาจากจำเลยรวม ๖ ปี เป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท โดยกล่าวว่า โจทก์ได้กู้เงินจำเลยไป ๓,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี โจทก์มอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ย ครั้นต่อมา จำเลยมาฟ้องโจทก์เรียกต้นเงินและดอกเบี้ย ตามคดีแพ่งแดงที่ ๑๗๑/๒๕๐๔ ทำให้โจทก์เสียหายขาดประโยชน์การทำนาซึ่งโจทก์ควรได้
จำเลยให้การว่า เมื่อจำเลยฟ้องเรียกดอกเบี้ยในคดีแดง ที่ ๑๗๑/๒๕๐๔ โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้ว่า โจทก์ให้จำเลยทำนาต่างดอกเบี้ยแต่กลับทำสัญญายอมความต่อศาลยอมชำระดอกเบี้ยให้จำเลยตามฟ้อง เมื่อโจทก์มาฟ้อง คดีจึงเป็นฟ้องซ้ำ และต่อสู้ในข้ออื่น ๆ อีก
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๘๕๐ บัญญัติว่าสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น คือ สัญญาซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่ง และมาตรา ๔๕๒ ผลของสัญญานี้ทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้น
การที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแดงที่ ๑๗๑/๒๕๐๔ ซึ่งจำเลยฟ้องเรียกต้นเงินและดอกเบี้ยจากโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ชำระดอกเบี้ย โจทก์ให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ได้ผิดสัญญา เพราะโจทก์ให้จำเลยทำนาของโจทก์ต่างดอกเบี้ยนั้น ทำให้ข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยระงับไป และทำให้การเรียกร้องของจำเลยให้โจทก์ชำระหนี้ตามสัญญากู้ในทันทีระงับไป และข้อที่โจทก์ได้เถียงว่าโจทก์ให้จำเลยทำนาต่างดอกเบี้ยก็ระงับไปด้วยตามบทบัญญัติของกฎหมาย
เมื่อศาลพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมนั้นแล้ว มีผลเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘๘ คือ โจทก์ต้องห้ามมิให้รื้อร้องฟ้องกันอีกในการเรียกร้องเกี่ยวกับการที่จำเลยทำนาโจทก์ต่างดอกเบี้ย โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้
พิพากษายืน