คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยและนางศรีทำสัญญาประนีประนอมมีใจความว่าที่พิพาทตลอดจนสิ่งปลูกสร้างนั้น นางศรีมีสิทธิเก็บผลประโยชน์และจำหน่ายจ่ายโอนได้ตามความพอใจ เมื่อนางศรีถึงแก่กรรมแล้ว ทรัพย์พิพาทยังคงเหลืออยู่เท่าใด ให้ตกเป็นสิทธิของโจทก์จำเลยคนละครึ่ง เห็นได้ว่าสัญญานี้มุ่งประสงค์ให้นางศรีมีอำนาจจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์พิพาทให้แก่ผู้ใดได้ในขณะที่นางศรียังมีชีวิตอยู่ ฉะนั้น การที่นางศรีทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้จำเลยจึงเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์ภายหลังนางศรีสิ้นชีวิตแล้ว เพราะตามกฎหมายพินัยกรรมย่อมมีผลต่อเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตายจึงไม่เป็นการจำหน่ายจ่ายโอนตามสัญญาประนีประนอม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นบุตรนายหยง ทองทวี และนางศรีทองทวี นายหยงถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้ผู้ใดนางศรีและโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า ที่ดินโฉนดที่ 1160, 1161, 1165 และนาโคกตลอดจนสิ่งปลูกสร้าง นางศรีมีสิทธิเก็บผลประโยชน์และจำหน่ายจ่ายโอนได้ เมื่อนางศรีถึงแก่กรรมทรัพย์ยังคงเหลือเท่าใดให้ตกเป็นของโจทก์จำเลยคนละครึ่ง ก่อนนางศรีถึงแก่กรรมนางศรีได้ยกที่ดินโฉนดที่ 1165 ให้จำเลย ส่วนที่ดินโฉนดที่ 1160, 1161 และที่นาโคก นางศรียังไม่ได้จำหน่ายจ่ายโอนให้แก่ผู้ใด เมื่อนางศรีถึงแก่กรรมแล้ว ทรัพย์ที่ยังคงเหลืออยู่นี้จึงตกเป็นของโจทก์จำเลยคนละครึ่งตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ก่อนนางศรีถึงแก่กรรมนางศรีได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ที่เหลือให้แก่จำเลยพินัยกรรมจึงหามีผลประการใดไม่ เพราะไม่ถือว่านางศรีได้จำหน่ายจ่ายโอนในขณะมีชีวิตอยู่ ขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมของนางศรีเป็นโมฆะ ให้จำเลยแบ่งทรัพย์ให้โจทก์กึ่งหนึ่ง จำเลยต่อสู้ว่า การที่นางศรีทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลย เป็นการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์อย่างหนึ่งเหมือนกัน ทรัพย์จึงตกเป็นของจำเลยตามพินัยกรรม

วันนัดพร้อม คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่านางศรีได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลยนั้น จะถือว่านางศรีได้จำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์ไปตามสัญญาประนีประนอมข้อ 3(2) หรือไม่

ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาให้แบ่งทรัพย์ให้โจทก์จำเลยคนละครึ่ง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การทำพินัยกรรมอยู่ในข้อจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์นางศรีจะจำหน่ายในขณะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ก็อยู่ในข่ายของสัญญาประนีประนอมทั้งสิ้นตอนบังคับตามพินัยกรรม โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่ง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คู่ความแถลงขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่าที่นางศรีได้ทำพินัยกรรมนั้น จะถือว่านางศรีได้จำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์ไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่ สัญญาประนีประนอมระหว่างนางศรีและโจทก์จำเลยมีว่า ที่ดินตามโฉนดที่ 1160, 1161, 1165 และ นาโคก ตลอดจนสิ่งปลูกสร้าง นางศรีมีสิทธิเก็บผลประโยชน์และจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์ได้ตามความพอใจ แต่ถ้าทรัพย์ดังกล่าวมานี้ เมื่อนางศรีถึงแก่กรรมแล้วยังคงเหลือเท่าใดให้ตกเป็นสิทธิของนางทิพย์ วรวิเศษ และนางเทพ โคตรเสน คนละครึ่งศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาประนีประนอมนี้มุ่งประสงค์ว่า ถ้านางศรีจะจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินที่ได้รับมาตามสัญญาให้แก่ผู้ใดแล้ว จะต้องจำหน่ายจ่ายโอนเสียตั้งแต่นางศรียังมีชีวิตอยู่ ถ้านางศรีไม่จำหน่ายจ่ายโอนเสียตั้งแต่ยังชีวิตอยู่แล้ว เป็นความประสงค์ของคู่กรณีที่จะให้ทรัพย์ที่ยังเหลืออยู่ขณะนางศรีถึงแก่กรรมตกเป็นของโจทก์จำเลยคนละครึ่ง ศาลฎีกาเห็นว่าตามกฎหมาย พินัยกรรมย่อมมีผลต่อเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตาย ฉะนั้น ที่นางศรีทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้จำเลยจึงเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์ภายหลังนางศรีสิ้นชีวิตแล้วไม่อาจจะถือได้ว่าเป็นการจำหน่ายจ่ายโอนตามสัญญาประนีประนอม จำเลยจึงแพ้คดีตามคำท้า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share