คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นคนงานของผู้ตาย จำเลยไม่สมัครใจทำงานกับผู้ตาย จำเลยขอเงินค่าโดยสารรถจากผู้ตายเพื่อกลับบ้าน ผู้ตายไม่ให้ จำเลยว่าจะไปขอความช่วยเหลือตำรวจผู้ตายโกรธ ตบหน้าจำเลย 1 ที และใช้ไม้ข้างถนนตีจำเลย 1 ที จำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายบ้าง ผู้ตายชักปืนออกจะยิงจำเลย จำเลยเข้าแย่งปืนจากผู้ตายได้ จำเลยไล่ยิงตาย ผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยเข้าไปยิงผู้ตาย 2 นัด ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ไม่ใช่เป็นกรณีป้องกันตัว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนพกสั้นตีและยิงผู้ตาย ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุกตลอดชีวิต ลดโทษหนึ่งในสามตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๔ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมเป็นเหตุให้บันดาลโทสะถึงกับฆ่าผู้ตายในขณะนั้น พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ ให้จำคุก ๑๒ ปี ลดโทษตามมาตรา ๗๘ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๘ ปี
จำเลยฎีกาว่า จำเลยจำเป็นต้องกระทำเพื่อป้องกันตัว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยและผู้ตายได้ไปด้วยกัน ในขณะเกิดเหตุ จำเลยขอเงินค่าโดยสารรถจากผู้ตาย ผู้ตายไม่ให้ จำเลยว่าจะไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจผู้ตายโกรธ ตบหน้าจำเลย ๑ ที และใช้ไม้ข้างถนนตีจำเลยอีก ๑ ที จำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายบ้างผู้ตายชักปืนออกจะยิงจำเลย จำเลยเข้าไปแย่งปืนจากผู้ตายได้ จำเลยไล่ยิงผู้ตาย ผู้ตายล้มลงจำเลยเข้าไปยิงซ้ำอีก ๒ นัด แล้วจำเลยหนีไป เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ไม่ใช่เป็นกรณีป้องกันตัว
พิพากษายืน.

Share