คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยรับจ้างขนสิ่งของทางเรือไปส่งโจทก์ แล้วเรือที่บรรทุกของ ๆ โจทก์ล่มลง ข้าวของ ๆ โจทก์ เสียหายเช่นนี้ จำเลยจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เว้นแต่จำเลยจะพิศูจน์ได้ว่าการเสียหายนี้ได้เกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับจ้างขนปูนซิเมนต์ของโจทก์ไปทางเรือ ๒,๗๐๐ กระสอบ โดยเอาบรรทุกเรือยนต์ ๑,๔๐๐ กระสอบ และส่วนที่เหลือเอาบรรทุกเรือใบ แล้วใช้เรือยนต์ลากไปเพื่อส่งแก่โจทก์ จำเลยคงนำปูนไปส่งโจทก์ได้ ๑,๔๐๐ กระสอบ อีก ๑,๓๐๐ กระสอบเรือล่มเสียหายหมดเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลย จึงฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าปูน ๔๒,๙๐๐ บาท กับค่าที่โจทก์ขาดกำไร ๕,๒๐๐ บาท
จำเลยให้การว่าเรือจมเพราะเหตุสุดวิสัย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด และฟ้องแย้งเรียกค่าบรรทุกปูน ๑,๔๐๐ กระสอบ
โจทก์แก้ฟ้องแย้งว่าจำเลยปฏิบัติยังไม่เสร็จตามสัญญา จึงไม่มีสิทธิ์เรียกค่าระวาง
ศาลชั้นต้นได้พิจารณาคดีแล้ว พิพากษายังไม่เสร็จตามสัญญา จึงไม่มีสิทธิ์เรียกค่าระวาง
ศาลชั้นต้นได้พิจารณาคดีแล้ว พิพากษาให้จำเลย
๑ ใช้ค่าปูนกับค่าที่โจทย์จะได้กำไรอีก ๔,๐๐๐ ยาท รวม เป็น ๔๖,๙๐๐ บาท และให้เสียดอกร้อยละ ๗ ครึ่งนับตั้งแต่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๔๙๕ จนกว่าจะชำระเสร็จและให้โจทก์ใช้ค่าระวาง ๔๒๐๐ บาทแก่จำเลยที่ ๑ สำหรับจำเลยที่ ๒,๓,๔ ไม่ต้องรับผิด
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะข้อที่จำเลยเสียดอกเบี้ยเป็น ไม่ต้องใช้
จำเลยฏีกา
ศาลฏีกาวินิจฉัยว่า ตามมาตรา๖๑๖ แห่งประมวลแพ่งฯ บัญญัติว่า ผุ้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของอันเขาได้มอบหมายแก่คนนั้นสูญหายหรือบุบสลาย หรือส่งมอบชักช้าเว้นแต่จะพิศูจน์ให้เห็นว่าเรือบรรทุกปูนของโจทก์ได้จมเพราะเหตุสุดวิสัยจริง แต่ข้อเท็จจริงเท่าที่สืบกันมาน่าเชื่อฝ่ายโจทก์มากกว่าจำเลย เพราะโจทก์มีพนักงานของกรมอุตุนิยมวิทยามาเบิกความยืนยันว่าในวันเกิดเหตุนั้นลักษณะอากาศที่กันตังและภูเก็ตปรกติ ทะเลเรียบ เกาะลันดาห่างจากกันตังราว ๔๖ กิโลเมตร ถ้าที่เกาะลันตามีพายุตัวเลขจะแสดงให้เห็นความผิดปรกติไปจากที่สำรวจไว้ เมื่อพยานจำเลยเชื่อไม่ได้ว่าเกิดพายุใหญ่และมีคลื่นลมแรง จึงทำให้เรือจม ก็เป็นอันว่าจำเลยพิศูจน์ไม่ได้ว่า การสูญหายปูนซีเมนต์ของโจทก์เป็นโดยเหตุสุดวิสัย จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share