คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1467/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญา ผู้ประกันนำจำเลยมาตามวันนัดให้มาฟังคำพิพากษา ศาลได้เรียกจำเลยเข้าฟังคำพิพากษา และอ่านคำพิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว ถือได้ได้ว่าผู้ประกันได้นำตัวจำเลยส่งศาลแล้ว การที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยนั้น ย่อมถือเสมือนว่าศาลสั่งถอนประกันไปในตัว ผู้ประกันหมดหน้าที่ตามสัญญาประกันแล้ว

ย่อยาว

ความว่า จำเลยถูกฟ้องหาว่าฉุดคร่าหญิงไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนชำเรา ในระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้ง ๒ ได้มีประกันตัวไป วันนัดฟังคำพิพากษานายพลเสมียนศาลได้เรียกจำเลยทั้ง ๒ เข้าฟังคำพิพากษา ศาลได้อ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง ๒ นายพลได้ให้จำเลยทั้ง ๒ ลงชื่อในหน้าสำนวนแล้ว ได้รับไปตามตำรวจมาเพื่อรับตัวจำเลยปรากฏว่าจำเลยได้หลบหนีไป ศาลชั้นต้นให้นายประกันส่งตัวจำเลยภายใน ๑๕ วัน แต่นายประกันส่งตัวจำเลยไม่ได้ ศาลจึงสั่งนายประกันตามสัญญา
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว สัญญาประกันเป็นอันสิ้นสุดลง ผู้ประกันทุกคนหลุดพ้นความผิด พิพากษาเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น
อัยยการโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ผู้ประกันนำจำเลยมาตามวันนัดให้มาฟังคำพิพากษา จนศาลเรียกตัวจำเลยเข้าฟังคำพิพากษาและศาลได้อ่านคำพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วนั้น พอฟังได้แล้วว่าผู้ประกันได้นำจำเลยส่งศาล การที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยนั้นย่อมถือเสมือนว่าศาลได้สั่งถอนประกันไปในตัวผู้ประกันหมดหน้าที่ตามสัญญาประกันแล้ว
พิพากษายืน.

Share