คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14621/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การนำสืบพยานบุคคลว่าจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถทั้งสองคันแทนโจทก์ เป็นการนำสืบข้อเท็จจริงระหว่างตัวการกับตัวแทน ไม่เกี่ยวกับการนำสืบเพื่อให้มีการบังคับหรือไม่บังคับตามสัญญาเช่าซื้อแต่อย่างใด โจทก์ย่อมนำสืบพยานบุคคลได้ และไม่ต้องห้ามมิให้ศาลยอมรับฟังพยานบุคคลที่โจทก์นำสืบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94 วรรคหนึ่ง (ข)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน บฉ 9566 กำแพงเพชร และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กค 5174 กำแพงเพชร คืนแก่โจทก์ และให้จำเลยดำเนินการจดทะเบียนรถดังกล่าวเป็นชื่อโจทก์ครอบครอง หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และหากจำเลยคืนรถแก่โจทก์ไม่ได้ ก็ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยคืนเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝาก กับเงินที่ลูกค้าค้างจ่ายและจำเลยเก็บเอาไป 190,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยส่งมอบใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร และใบอนุญาตค้าหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้ามคืนแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน บฉ 9566 กำแพงเพชร และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กค 5174 กำแพงเพชร คืนแก่โจทก์ และให้จำเลยดำเนินการจดทะเบียนรถดังกล่าวเป็นชื่อโจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และหากจำเลยคืนรถให้โจทก์ไม่ได้ ให้ใช้ราคาแทนสำหรับรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันเป็นเงิน 200,000 บาท และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าเป็นเงิน 400,000 บาท รวม 600,000 บาท กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์
แทนโจทก์ 3,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยคืนเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝาก กับเงินที่ลูกค้าค้างจ่ายและจำเลยเก็บเอาไป 190,000 บาท และที่ขอให้จำเลยส่งมอบใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร กับใบอนุญาตค้าหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้ามคืนแก่โจทก์ โจทก์ไม่อุทธรณ์ คำขอดังกล่าวจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในชั้นฎีกามีปัญหาเกี่ยวกับรถทั้งสองคันตามฟ้องเท่านั้น โดยโจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ในการประกอบกิจการร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ โจทก์จัดหารถมาใช้ในการประกอบกิจการและใช้เป็นยานพาหนะสองคันโดยโจทก์ให้จำเลยเป็นตัวแทนทำสัญญาเช่าซื้อรถทั้งสองคันแทนโจทก์ ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบพยานบุคคลว่ารถทั้งสองคันนี้โจทก์เช่าซื้อมาจากผู้ให้เช่าซื้อ จำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อในฐานะผู้เช่าซื้อแทนโจทก์ ศาลล่างทั้งสองรับฟังพยานบุคคลที่โจทก์นำสืบ แล้วรับฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ในการประกอบกิจการร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ และจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อแทนโจทก์ มีปัญหาข้อกฎหมายวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การที่ศาลล่างทั้งสองรับฟังพยานบุคคลว่าจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถทั้งสองคันแทนโจทก์ เป็นการรับฟังพยานที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า การที่โจทก์นำสืบพยานบุคคลว่าจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อแทนโจทก์เป็นการนำสืบข้อความเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาเช่าซื้อที่ไม่มีข้อความว่าจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อแทนโจทก์ อันเป็นการต้องห้ามมิให้ศาลยอมรับฟังพยานบุคคลที่โจทก์นำสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคหนึ่ง (ข) นั้น เห็นว่า การนำสืบพยานบุคคลว่าจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถทั้งสองคันแทนโจทก์ เป็นการนำสืบข้อเท็จจริงระหว่างตัวการกับตัวแทน ไม่เกี่ยวกับการนำสืบเพื่อให้มีการบังคับหรือไม่บังคับตามสัญญาเช่าซื้อแต่อย่างใด โจทก์ย่อมนำสืบพยานบุคคลได้ และไม่ต้องห้ามมิให้ศาลยอมรับฟังพยานบุคคลที่โจทก์นำสืบ ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองรับฟังพยานบุคคลที่โจทก์นำสืบ แล้วรับฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถทั้งสองคันตามฟ้องแทนโจทก์ เป็นการรับฟังพยานที่ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share