แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวซึ่งใช้เป็นที่ประกอบการค้าโดยอ้างว่าบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยให้การว่าสัญญาเช่ายังไม่ครบกำหนดขับไล่จำเลยไม่ได้ พร้อมทั้งฟ้องแย้งว่าเมื่อจำเลยถูกขับไล่แล้ว โจทก์จะต้องชดใช้เงินค่ปลูกสร้างโกดังสินค้าและโรงรถด้วยนั้น เห็นได้ว่าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง กล่าวคือ ถ้าจำเลยชนะคดีตามคำให้การ ฟ้องแย้งของจำเลยก็ตกไป เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะชดใช้ จึงเป็นเรื่องที่จะเรียกร้องอีกเรื่องหนึ่งต่างหากในภายหลังเมื่อปรากฏผลในคดีนี้แล้ว จึงพิจารณาฟ้องแย้งของจำเลยไปพร้อมกันกับข้อต่อสู้ในคำให้การไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกแถวรวม ๒๖ ห้อง โดยได้รับโอนกรรมสิทธิ์มาจากทายาทผู้รับมรดกของพระยาอุเทนเทพโกสินทร์ เดิมจำเลยเป็นผู้เช่าตึกแถว ๒๖ ห้องนี้เพื่อประกอบการค้า เมื่อโจทก์ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแล้วได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย จำเลยเพิกเฉย ขอให้พิพากษาขับไล่กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๔๕,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีและฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การจำเลย ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยเห็นว่าไม่มีความเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม จึงให้ยกฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๗ วรรค ๓ บัญญัติว่า “จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้ แต่ถ้าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้ว ให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก” กฎหมายบัญญัติไว้ก็เพื่อให้ศาลพิจารณาคดีเป็นเรื่องๆ ไป ไม่ปะปนกัน แม้ในคำฟ้องที่มีข้อหาหลายข้อ ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกัน ก็ให้ศาลสั่งแยกคดีเสียได้ ตามมาตรา ๒๙ คดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องขับไล่ เพราะเหตุที่บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยให้การสู้คดีว่า สัญญาเช่ายังไม่ครบกำหนด ขับไล่จำเลยไม่ได้ ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง เมื่อจำเลยถูกขับไล่แล้ว โจทก์จึงต้องชดใช้เงินค่าปลูกสร้าง หรือจะแยกให้เห็นง่ายๆ ก็ได้ ว่า ถ้าจำเลยชนะคดีตามคำให้การ ฟ้องแย้งของจำเลยก็ตกไป เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะชดใช้ จึงเป็นเรื่องที่จะเรียกร้องอีกเรื่องหนึ่งต่างหากในภายหลัง เมื่อปรากฏผลในคดีนี้แล้ว ดังนั้น จึงพิจารณาฟ้องแย้งของจำเลยไปพร้อมกันกับข้อต่อสู้ในคำให้การไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย