แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หนังสือมีข้อความว่า “แต่นี้ต่อไปนางนวนจะไม่เกี่ยวข้องสมบัติกับแม่อีก” ไม่ใช่หนังสือสละมรดก จะถือว่าเป็นการสละสิทธิรับมรดกในภายหน้าก็ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลอบไปขอโอนรับมรดกของมารดาโจทก์จำเลยต่อเจ้าพนักงานที่ดิน และกีดกันไม่ยอมแบ่งทรัพย์มรดกให้โจทก์ ขอให้เพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยโอนรับมรดกและให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์
จำเลยสู้ว่า โจทก์ได้รับทรัพย์ไปในระหว่างมารดายังมีชีวิตอยู่และโจทก์คนหนึ่งได้ทำหนังสือไว้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดกของมารดา ส่วนทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องบิดามารดาได้ยกให้จำเลยทั้งสอง จำเลยได้ครอบครองมากว่า 10 ปี ได้กรรมสิทธิ์แล้ว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า บิดามารดาได้ยกทรัพย์ดังกล่าวให้จำเลยแล้วยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ไม่เชื่อว่าบิดามารดายกทรัพย์ให้จำเลยและหนังสือที่โจทก์ทำให้มารดาไว้ไม่ใช่หนังสือสละมรดก หรือแม้จะฟังว่าเป็นหนังสือสละมรดกก็ไม่ได้เพราะเป็นการสละก่อนเจ้ามรดกตาย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยแบ่งทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ทรัพย์พิพาทยังเป็นของนางตันเจ้ามรดกและเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาท หนังสือที่โจทก์ที่ 2 ทำไว้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์อื่นอีกนั้น ได้ทำไว้ตั้งแต่นางตันเจ้ามรดกยังไม่ตาย จึงมิใช่เป็นการสละทรัพย์มรดกของนางตัน ทั้งจะถือว่าเป็นการสละสิทธิรับมรดกของนางตันในภายหน้า ก็ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย