คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันที่ว่า ในกรณีที่ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชำระหนี้แทนลูกหนี้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จะต้องแจ้งข้อเรียกร้องที่ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดให้ผู้ค้ำประกันทราบภายในกำหนดอายุสัญญาค้ำประกันเสียก่อนจึงจะใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาค้ำประกันได้นั้น เป็นคนละเรื่องกับการใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาค้ำประกันและไม่ใช่ข้อตกลงที่ให้ย่นอายุความฟ้องร้องให้สั้นลง ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีผลใช้บังคับได้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้ยื่นคำเรียกร้องให้ผู้ค้ำประกันทราบภายในกำหนดตามข้อตกลงดังกล่าวก่อน ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายทรานส์ฟอร์มเมอร์ให้โจทก์หากผิดสัญญายอมให้โจทก์ปรับ จำเลยที่ 2 ค้ำประกันความรับผิดของจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาและไม่ชำระค่าปรับจึงขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ใช้เงินค่าปรับแก่โจทก์ หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระก็ให้จำเลยที่ 2 ชำระแทน

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ให้การว่า สัญญาค้ำประกันมีเงื่อนไขบังคับก่อนว่าโจทก์จะต้องยื่นคำเรียกร้องแก่จำเลยที่ 2 ภายในวันครบกำหนดอายุสัญญาค้ำประกัน ซึ่งโจทก์มิได้ปฏิบัติ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินเบี้ยปรับแก่โจทก์ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 ชำระเงินแก่โจทก์หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่ 2 ทำให้โจทก์ยึดถือไว้ได้ระบุว่าหนังสือค้ำประกันฉบับนี้หมดอายุวันที่ 26 สิงหาคม2512 แต่ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้ขยายอายุไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์2513 โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยื่นคำเรียกร้องตามหนังสือค้ำประกันนี้ภายในวันหมดอายุดังกล่าวด้วย เห็นว่าคำเรียกร้องตามเงื่อนไขในสัญญาค้ำประกันนี้เป็นเรื่องที่เมื่อมีการผิดสัญญาซึ่งผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันแล้ว โจทก์จะต้องแจ้งข้อเรียกร้องที่จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดให้จำเลยที่ 2 ทราบภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2513ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาค้ำประกัน โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาค้ำประกันได้ก็ต่อเมื่อโจทก์ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาค้ำประกันดังกล่าวแล้วเสียก่อน ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการยื่นคำเรียกร้องเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องและเป็นการย่นอายุความนั้นจึงไม่ต้องด้วยความเห็นศาลฎีกา โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 โดยมิได้ยื่นคำเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 ทราบตามเงื่อนไขภายในกำหนดเวลาในสัญญาค้ำประกันก่อน จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2ให้เป็นพับทั้งสองฝ่าย

Share