คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทย์ฟ้องอ้างสิทธิว่า โจทก์เป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกของน้องชายโจทก์ ไม่ได้กล่าวอ้างว่า โจทก์เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดกน้องชายอย่างไร เมื่อมิได้ความว่าน้องชายได้แต่งตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรม์หรือโจทก์ได้รับแต่งตั้งจากศาลแล้ว โจทก์ก็ไม่ใช่เป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกของน้องชายโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๑ จำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินนายหยิบไปเป็นเงิน ๓๔๐๐ บาท มอบโฉนดที่ดินให้ยึดถือไว้ ครั้นเดือนมิถุนายน ๒๔๙๒ นายหยิบน้องชายโจทก์ถึงแก่กรรม โจทก์ซึ่งเป็นพี่สาวนายหยิบ และเป็นผู้จัดการมรดกของนายหยิบได้ทวงถามต้นเงินจากจำเลย ๆ พูดบิดพริ้วต่าง ๆ จึงขอให้บังคับจำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ฟ้องในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก แต่ในชั้นพิจารณาให้การเป็นพยานว่าเป็นทายาท ซึ่งโจทก์มิได้กล่าวในฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องโดยอ้างสิทธิว่า โจทก์เป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกนายหยิบน้องชายโจทก์ ไม่ได้กล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดกจากนายหยิบอย่างไร เมื่อมิได้ความปรากฎว่านายหยิบได้แต่งตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรม์หรือโจทก์ได้รับแต่งตั้งจากศาลแล้ว โจทก์ก็ไม่ใช่เป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกของนายหยิบโดยชอบด้วยกฎหมาย หามีอำนาจฟ้องไม่ ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดชอบแล้ว จึงพิพากษายืน

Share