คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ได้รับมอบอำนาจให้เป็นโจทก์ฟ้องความและให้รับเงินแทนด้วยนั้น จะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินจากศาลแทนไม่ได้ เพราะเป็นการตั้งตัวแทนช่วงโดยมิได้รับอนุญาตจากตัวการ. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24,25/2512).

ย่อยาว

คดีนี้ กระทรวงเกษตรได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชหรือผู้รักษาการแทน เป็นผู้มีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งทำสัญญาผูกขาดทำการประมงไว้กับกระทรวงเกษตรและผิดสัญญา โดยให้มีอำนาจดำเนินคดี รวมทั้งมีอำนาจยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้องการถอนฟ้องและประนีประนอมยอมความ การสละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา การขอให้พิจารณาใหม่ และให้เป็นผู้รับเงินเกี่ยวกับคดีนี้ทั้งสิ้นจากศาล นายสันต์ เอกมหาชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้รับมอบอำนาจจึงได้ฟ้องเรียกเงินอากรประมง1,483.95 บาทจากจำเลย จำเลยทำสัญญาประนีประนอมต่อศาลยอมชำระเงินให้ตามฟ้อง พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียม ต่อมาจำเลยได้นำเงินที่จะต้องชำระให้แก่โจทก์ตามยอมมาชำระต่อศาล นายสันต์ เอกมหาชัย จึงได้ทำหนังสือมอบฉันทะให้นายสุพัตร แสนพล มารับเงินดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายสันต์ เอกมหาชัยรับเงินแทนได้ก็จริง แต่มิได้หมายความว่านายสันต์ เอกมหาชัย ผู้รับมอบอำนาจจะมอบอำนาจต่อไปได้โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้ นายสันต์ เอกมหาชัย ไม่ใช่ตัวความ เป็นเพียงตัวแทนของกระทรวงเกษตรซึ่งเป็นตัวความ นายสันต์เอกมหาชัย จึงไม่มีอำนาจตั้งบุคคลอื่นรับเงินแทนตัวความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 63 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ปัญหามีว่า ผู้ได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องความและให้รับเงินแทนด้วยนั้น จะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินจากศาลแทนได้หรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า จะมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินแทนไม่ได้ เพราะเป็นการตั้งตัวแทนช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากตัวการ.

Share