แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรเจ้าพนักงานผู้กระทำการบกพร่องเกินเลยไปบ้างเช่นปล่อยให้มีการโฆษนาในปริมณฑล 30 เมตร์ในสถานที่เลือกตั้งและถ้าไปนับคะแนนเสียงเสียเองบ้าง ซึ่งมิใช่เป็นข้อสาระสำคัญที่จะให้คะแนนเสียงของผู้ได้รับเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปดังนี้ ก็ไม่มีเหตุสมควรที่จะเพิกถอนการเลือกตั้งครั้งนั้น
การที่เจ้าพนักงานนำรูปผู้สมัคร์รับเลือกตั้งไปปิดล่าช้าเพราะความจำเป็นในทางคมนาคมนั้น ไม่เป็นเหตุถึงกับทำให้การเลือกตั้งเสียไป
ย่อยาว
ผู้ร้องทั้ง ๓ ซึ่งเป็นผู้สมัคร์รับเลือกตั้งร้องคัดค้านหาว่า ท.ผู้ได้รับเลือกตั้งให้สินบนและสัญญาจะให้สินบนแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงและเจ้าพนักงานผู้ทำการเลือกตั้งทำการบกพร่องต่างๆ
ศาลฎีกามีคำสั่งว่าข้อหาของผู้ร้องที่ว่า ท.ให้ทรัพย์สินและสัญญาจะให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นตกไป เพราะศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพะยานหลักฐานว่าผู้ร้องพิสูจน์ไม่ได้ว่า ท.กระทำผิด สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่า เจ้าพนักงานมิได้ปิดประกาศรูปถ่ายผู้สมัคร์รับเลือกตั้งหมายเลข ๗,๘,๙ นั้นเห็นว่าตาม ม.๒๓ มิได้บังคับว่าเจ้าพนักงานต้องนำประกาศและรูปถ่ายไปปิดช้านานเท่าใด เป็นแต่ให้ปิดไว้โดยเร็ว แต่การปิดล่าช้าเพราะการคมนาคมลำบากเช่นเรื่องนี้มิใช่เพราะเจตนาแกล้งของเจ้าพนักงานแล้ว ก็ถือว่าเจ้าพนักงานทำผิดมิได้ ส่วนที่ว่าเจ้าพนักงานปล่อยให้มีการโฆษนาขอคะแนนเสียงภายในเขตต์ ๓๐ เมตร์ แม้จะเป็นจริงก็เป็นความผิดของผู้นั้นเอง ไม่กระทบกระเทือนผลของการเลือกตั้งเลย และที่ว่าเจ้าพนักงานควบคุมการเลือกตั้งสอดเข้าไปนับคะแนนและชี้ขาดเสียเองนั้น เห็นว่าเมื่อการกระทำของเจ้าพนักงานเป็นไปโดยสุจริตมิได้เป็นเหตุให้คะแนนเสียงของผู้รับเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ไม่มีเหตุจะทำให้การเลือกตั้งเสียไป เห็นว่าเมื่อคำร้องของผู้ร้องที่เป็นสาระสำคัญอันจะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งเสียไปนั้น ฟังไม่ได้ว่า
ท.หรือเจ้าพนักงานกระทำผิดส่วนข้อที่เจ้าพนักงานทำบกพร่องเกินเลยไปบ้างก็มิใช่สาระสำคัญอันเป็นเหตุให้คะแนนเสียงของผู้รับเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุจะให้เพิกถอนการเลือกตั้งและมีการเลือกตั้งใหม่ จึงสั่งให้ยกคำร้องเสีย และให้ผู้ร้องเสียค่าธรรมเนียมค่าทนายแทน ท.และคณะกรรมการจังหวัดฝ่ายละ ๕๐ บาท