คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาตามทุนทรัพย์ 280,000 บาทซึ่งเป็นการรวมเอาราคาที่ดินพิพาทจำนวน 80,000 บาท กับค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องเรียกจากจำเลยจำนวน 200,000 บาท เข้าด้วยกันก็ตามแต่ฎีกาของโจทก์มิได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องค่าเสียหายว่าโจทก์ยังประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยตามฟ้อง จึงเท่ากับว่าโจทก์ไม่ได้ฎีกาในประเด็นนี้ ฎีกาของโจทก์มีเพียงประเด็นว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ เมื่อราคาที่ดินพิพาทไม่เกิน200,000 บาท คดีโจทก์ก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของสิทธิครอบครองที่ดินตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 38/2498เนื้อที่ 120 ไร่ จำเลยทั้งสองได้นำเจ้าพนักงานที่ดินไปทำการรังวัดที่ดิน และนำชี้แนวเขตที่ดินล้ำเข้าไปในเขตที่ดินของโจทก์เนื้อที่2 ไร่ โจทก์จึงได้ยื่นคำคัดค้านการรังวัด การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 200,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อถอนบ้านออกไปจากที่ดินของโจทก์ และทำที่ดินของโจทก์ให้อยู่ในสภาพเดิม กับให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาทแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของสิทธิครอบครองและไม่เคยเข้าครอบครองที่ดินพิพาท จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 3241 ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินพิพาทจำเลยทั้งสองได้เข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามโฉนดดังกล่าวและที่ดินพิพาทตลอดมาเป็นเวลา 20 ปีเศษแล้ว โจทก์ไม่เคยโต้แย้งการครอบครองของจำเลยทั้งสอง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ระหว่างพิจารณาโจทก์ถึงแก่กรรม นายสมจิต แจ้งสว่าง ทายาทและผู้จัดการมรดกของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลฎีกาอนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาตามทุนทรัพย์ 280,000 บาท ซึ่งเป็นการรวมเอาราคาที่ดินพิพาทจำนวน80,000 บาท กับค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องเรียกจากจำเลยจำนวน 200,000บาท เข้าด้วยกันก็ตาม แต่ฎีกาของโจทก์มิได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องค่าเสียหายว่าโจทก์ยังประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยตามฟ้องเพื่อให้ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์อีกหรือไม่ จึงเท่ากับว่าโจทก์ไม่ได้ฎีกาในประเด็นนี้ ฎีกาของโจทก์จึงมีเพียงประเด็นว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่เพียงประเด็นเดียวฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริง เมื่อคดีนี้ราคาที่ดินพิพาทไม่เกิน 200,000 บาท คดีโจทก์ก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
พิพากษายกฎีกาของโจทก์

Share