แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การทำไม้หวงห้าม การแปรรูปไม้ในเขตควบคุม การมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง และการมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการกระทำอันเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้ไม้ที่แปรรูปแล้วกับไม้อันยังมิได้แปรรูปเป็นไม้หวงห้ามรายเดียวกันกับไม้ที่ผู้กระทำความผิดได้ทำโดยมิได้รับอนุญาตและ ไม้แปรรูปที่มีไว้ในครอบครองเป็นไม้ที่ผู้กระทำความผิดแปรรูปเองก็ตาม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรม กล่าวคือร่วมกันแปรรูปไม้ ทำไม้ และมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้แปรรูปและยังมิได้แปรรูป โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และมิได้รับการยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯลฯ
จำเลยทั้งสิบให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสิบมีความผิดรวม ๔ กรรม คือฐานแปรรูปไม้ ทำไม้หวงห้าม มีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง และมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
จำเลยทั้งสิบอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๙ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การทำไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่การแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองจำนวนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ กับการมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยฝ่าฝืนต่อมาตรา ๖๙แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ เป็นการกระทำอันเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้ไม้ที่แปรรูปแล้วกับไม้อันยังมิได้แปรรูปเป็นไม้หวงห้ามรายเดียวกันกับไม้ที่ผู้กระทำความผิดได้ทำโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม้แปรรูปที่ผู้กระทำผิดมีไว้ในครอบครองเป็นไม้ที่ผู้กระทำความผิดแปรรูปเองก็ตาม
พิพากษายืน