แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยตกลงกันว่าถ้าพะยานเบิกความว่าพะยานมอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีและสัญญาที่ฟ้องคือ ฉะบับ พ.ศ.2480 กับจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ตามสัญญาที่ฟ้องนี้สมทั้ง 3 ข้อ จำเลยยอมแพ้ พะยานเบิกความว่า ได้มอบอำนาจให้ฟ้องจริง จำเลยทำสัญญาให้ 2 ครั้งและยังไม่ได้ชำระหนี้ เช่นนี้ต้องฟังว่าพะยานเบิกความไม่สมทั้ง 3 ข้อ.
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ กู้เงินไป จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาสัญญากู้หายจึงฟ้องขอให้จำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยโจทก์จำเลยตกลงกันสืบนางปานเป็นพะยานผู้เดียว ถ้านางปานเบิกความว่า นางปานได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ และจำเลยได้ทำสัญญาที่ฟ้องนี้คือ ฉะบับ พ.ศ.๒๔๘๐ กับจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ตามสัญญาที่ฟ้องนี้ จำเลยยอมแพ้ ถ้าหากเบิกไม่สมทั้ง ๓ ข้อ โจทก์ยอมแพ้
นางปานเบิกความว่า ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีนี้จริง จำเลยทั้งสองนี้ได้ทำสัญญาให้ ๒ ครั้ง และยังไม่ได้ชำระหนี้ให้
ศาลชั้นต้นเห็นว่า นางปานเบิกความสมข้างโจทก์ทุกข้อ จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามคำท้าข้อ ๑ นางปานเบิกความสมโจทก์จริงส่วนข้อ ๒ และ ๓ นั้นนางปานเบิกไม่สมโจทก์จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่านางปานเบิกความคลุม ๆ ไม่สมและไม่ตรงข้อท้าในข้อสำคัญว่าเป็นสัญญาฉะบับ พ.ศ.๒๔๘๐ หรือไม่ และจำเลยชำระเงินตามสัญญาที่ฟ้องแล้วหรือไม่จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์