คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การจำเลยอ้างเพียงว่าโจทก์ใช้กลอุบายร่วมกับบุคคลภายนอกฉ้อฉลจำเลยให้ทำบันทึกข้อตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนเพื่อยึดเอากิจการของห้างไปดำเนินการเอง มิได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าโจทก์ได้ฉ้อฉลจำเลยด้วยวิธีการอย่างใด จำเลยจึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบตามข้ออ้างของตน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยได้เข้าหุ้นส่วนกันจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการบริหารงานบกพร่อง ทำให้ห้างหุ้นส่วนขาดรายได้ ผู้เป็นหุ้นส่วนได้รับความเสียหาย โจทก์จำเลยจึงทำบันทึกตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนโดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนร่วมเป็นผู้ชำระบัญชี กิจการของห้างหุ้นส่วนตกลงให้ขายแก่บุคคลภายนอกต่อมาจำเลยได้ปฏิเสธการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วน ไม่ดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนและจดทะเบียนอำนาจผู้ชำระบัญชีภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ดำเนินกิจการของห้างหุ้นส่วนต่อไป ขอให้ศาลสั่งเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดและตั้งโจทก์เป็นผู้ชำระบัญชี เพิกถอนจำเลยจากการเป็นผู้ชำระบัญชี กับให้จำเลยดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนและอำนาจผู้ชำระบัญชีต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท
จำเลยให้การว่า จำเลยบริหารงานด้วยดีไม่บกพร่อง ไม่เคยทำให้ห้างหุ้นส่วนเสียหาย บันทึกข้อตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนยังไม่มีผลเพราะยังมิได้ไปจดทะเบียนโจทก์ไม่มีเจตนาจะเลิกห้างหุ้นส่วน แต่โจทก์ร่วมกับบุคคลภายนอกทำกลอุบายฉ้อฉลจำเลยเพื่อยึดเอากิจการของห้างหุ้นส่วนไปดำเนินกิจการเอง บันทึกดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์ ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์ไม่เสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัด ตั้งโจทก์เป็นผู้ชำระบัญชีเพิกถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้ชำระบัญชี ให้จำเลยดำเนินการขอจดทะเบียนเลิกห้างและอำนาจผู้ชำระบัญชีต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทภายใน ๑๔ วันนับแต่วันศาลมีคำสั่ง หากจำเลยเพิกเฉยให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จะวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยมีว่า จำเลยมีสิทธิสืบพยานว่าบันทึกข้อตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนไม่สมบูรณ์ ไม่มีผลบังคับตามกฎหมายได้หรือไม่ จำเลยให้การว่าบันทึกข้อตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนไม่สมบูรณ์ เพราะเจตนาที่แท้จริงของโจทก์ไม่มีเจตนาที่จะเลิกห้างหุ้นส่วน แต่เป็นการที่โจทก์ร่วมกันใช้กลอุบายร่วมกับบุคคลภายนอกฉ้อฉลจำเลยเพื่อยึดเอากิจการของห้างหุ้นส่วนไปดำเนินการเอง โดยโจทก์มีเจตนาไม่สุจริตหวังเอาชื่อเสียงและค่านิยมของห้างหุ้นส่วนซึ่งจำเลยเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้น เห็นว่า คำให้การจำเลยอ้างเพียงว่าโจทก์ใช้กลอุบายร่วมกับบุคคลภายนอกฉ้อฉลจำเลย แต่มิได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าโจทก์ได้ฉ้อฉลจำเลยด้วยวิธีการอย่างใด จำเลยจึงไม่มีประเด็นที่จะสืบพยานตามข้ออ้างของจำเลย
พิพากษายืน

Share