แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายได้ให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างเครื่องถือพวงมาลัยแทน เรือจึงได้ชนท้ายเรือโจทก์เสียหาย เช่นนี้เป็นฟ้องที่ชัดแจ้งแล้วไม่จำต้องบรรยายด้วยว่าจำเลยที่ 2 ได้ประมาทอย่างไรเรือจำเลยจึงได้ชนเรือโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของเรือ จำเลยที่ 2 เป็นช่างเครื่อง จำเลยที่ 3 เป็นนายท้ายเรือ เรือจำเลยได้ชนท้ายเรือโจทก์ด้วยความประมาทเลินเล่อ โดยจำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 2 ถือท้ายเรือแทนเป็นเหตุให้เรือโจทก์เสียหายจมลง มีข้าวของที่บรรทุกมาจมเสียหาย จึงขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้
จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้และว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ทั้งในข้อประมาทเลินเล่อและค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 4,316 บาท
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 4,988 บาท
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งว่าความประมาทเลินเล่อในการเดินเรือของจำเลย คือจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายได้ให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นช่างเครื่องไม่มีประกาศนียบัตรไปถือพวงมาลัยหาหน้าที่แทนเรือจึงไปชนท้ายเรือโจทก์ ฟ้องโจทก์หาเคลือบคลุมไม่ส่วนข้อเท็จจริงประการอื่นศาลฎีกาคงเห็นชอบตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้ จึงพิพากษายืน