คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องบรรยายว่าได้ฝากทรัพย์ไว้แก่จำเลย ต่อมาเดือน 8 ปีนี้ตรงกับเดือนกรกฎาคม 2493 โจทก์ไปขอรับทรัพย์ที่ฝากคืน จำเลยไม่คืนให้โดยเจตนาทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตนและผู้อื่น ขอให้ลงโทษ ดังนี้ มิได้กล่าวว่าจำเลยยักยอกทรัพย์วันใด หรือระหว่างวันเดือนใด จึงได้ชื่อว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันขึ้นแรมกี่ค่ำจำไม่ได้ เดือน ๓ พ.ศ.๒๔๙๒ เวลากลางวัน โจทก์นำทรัพย์ตามรายงานบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องไปฝากไว้กับนางผานายเป้ ราคาทรัพย์เป็นเงิน ๓๙๓ บาท ๕๐ สตางค์
ต่อมาเดือน ๘ ปีนี้ ตรงกับเดือนกรกฎาคม ๒๔๙๓ โจทก์ไปขอรับทรัพย์ที่ฝากคืน จำเลยไม่คืนให้ โดยเจตนาทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไว้เพื่ออาณาประโยชน์ส่วนตนและผู้อื่นขอให้ลงโทษตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๑๔-๓๑๖
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องสั่งว่า คดีมีมูลเฉพาะตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๑๔
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลล่างทั้งสองพิจารณาแล้ว เห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่ถูกต้องตามป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘ (๕) จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาคดีแล้ว พิเคราะห์ตามฟ้องของโจทก์ข้อ ๒ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิด คือยักยอกทรัพย์วันใดหรือระหว่างวันใด เพียงแต่กล่าวว่าโจทก์ได้ขอรับทรัพย์ที่ฝากคืน เมื่อเดือน ๘ ปีก่อนนี้ จำเลยเบียดบังไม่คืนให้ จึงได้เชื่อว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ดังความเห็นของศาลล่างชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share