คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1422/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผลิตกัญชาโดยปลูกกัญชาจำนวน 32 ต้นเพื่อจำหน่ายกับมีกัญชาจำนวนดังกล่าวและกัญชาแห้งอีก 1 ถุง ใหญ่และ 2 ถุง เล็กไว้ในครอบครอง ดังนี้ต้องถือว่ากัญชาแห้งดังกล่าวเป็นกัญชาอีกส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปลูกกัญชา 32 ต้น แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยในส่วนนี้เป็นความผิดอีกกรรมหรือต่างหาก.

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตกัญชาโดยปลูกกัญชาจำนวน32 ต้น น้ำหนัก 14 กิโลกรัมเพื่อจำหน่ายกับมีกัญชาดังกล่าวและกัญชาแห้งอีก 1 ถุงใหญ่และ 2 ถุงเล็ก น้ำหนัก 800 กรัมไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7, 26, 75, 76, 102, 103 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2522) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 17 กันยายน 2522 ข้อ 4(1)ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 26, 75, 76, 102, 103 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2522) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 17กันยายน 2522 ข้อ 4(1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4ลงโทษฐานผลิตกัญชาจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ลงโทษฐานมีกัญชาเพื่อจำหน่ายจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท รวมจำคุก 4 ปีและปรับ 40,000บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด 3 ปีนับแต่วันที่พิพากษา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยฐานผลิตกัญชาเพียงกรรมเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด1 ปี ไม่รอการลงโทษจำคุกและไม่ปรับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลย 2 กรรมเรียงกระทงลงโทษตามฟ้องโจทก์และขอไม่ให้รอการลงโทษจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การที่จำเลยมีกัญชาแห้งตามฟ้องด้วยจะเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งดังที่โจทก์ฎีกาหรือไม่ เห็นว่ากัญชาแห้งอีก1 ถุงใหญ่และ 2 ถุงเล็กน้ำหนัก 800 กรัม นั้น เป็นกัญชาอีกส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปลูกกัญชา 32 ต้นนั้นเลย การกระทำของจำเลยส่วนนี้ย่อมเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่งต่างหากจึงต้องลงโทษจำเลยอีกกระทงหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทและลงโทษบทหนักนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกกระทงหนึ่ง จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปีนอกจากที่ให้แก้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”.

Share