คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญา จำเลยให้การต่อสู้คดีว่ามิได้รับเงินกู้ โดยอ้างเหตุว่าโจทก์ซึ่ง เป็นบิดาของภริยาจำเลยตกลงกันว่า โจทก์จะจัดหาเงินมาทำการฌาปนกิจศพภริยาจำเลยแล้วจะนำเงินที่มีผู้มาช่วยงานศพใช้เงินที่โจทก์จ่ายไปในการจัดงาน โจทก์จึงให้จำเลยทำสัญญากู้ไว้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยอ้างสิทธิในเงินที่มีผู้มาช่วย และโจทก์ได้รับเงินที่มีผู้นำมาช่วยงานศพไปแล้ว ดังนี้ ถ้าเป็นจริงดังกล่าวมูลหนี้ระหว่างโจทก์และจำเลยก็ยังไม่เกิดขึ้น สัญญากู้ที่ทำกันย่อมไม่สมบูรณ์ไม่มีผลบังคับ เท่ากับเป็นการต่อสู้ว่าสัญญาหรือหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคสอง จำเลยจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไปจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาทครบกำหนดแล้วไม่ชำระ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับ
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้กู้และรับเงินจำนวนดังกล่าวไปจากโจทก์ความจริงโจทก์ซึ่ง เป็นบิดาของภริยาจำเลยต้องการจัดการเผาศพภริยาจำเลยแต่จำเลยไม่มีเงิน โจทก์จึงตกลงกับจำเลยว่าจะจัดหาเงินมาจัดงานศพแล้วจะเอาเงินที่มีผู้นำมาช่วยใช้หนี้เงินที่หามา โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ไว้เพื่อป้องกันมิให้จำเลยอ้างสิทธิในเงินที่มีผู้นำมาช่วย การทำสัญญากู้เป็นนิติกรรมลวงโดยความจริงมิได้มีการกู้เงินกัน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานเพราะเห็นว่าจำเลยจะนำสืบว่าไม่ได้รับเงินไม่ได้ พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหามีว่า การที่หนังสือสัญญากู้มีข้อความว่า”จำเลยได้รับเงินนี้ (เงินกู้) ไปเสร็จแล้วแต่วันทำสัญญานี้” แต่จำเลยจะนำสืบตามข้อต่อสู้ว่าจำเลยมิได้รับเงินกู้ จะเป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔ หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่จำเลยต่อสู้ว่า มิได้รับเงินกู้โดยจำเลยอ้างเหตุว่า โจทก์ซึ่ง เป็นบิดาของภริยาจำเลยกับจำเลยได้ทำการตกลงกันว่า โจทก์จะจัดหาเงินมาทำการฌาปนกิจศพภริยาจำเลย โดยจะออกบัตรการจัดงานฌาปนกิจ และจะนำเงินซึ่งมีผู้มาช่วยงานศพใช้เงินที่โจทก์ใช้จ่ายไปในการจัดงานฌาปนกิจ โจทก์จึงให้จำเลยทำหนังสือสัญญากู้ไว้ เพื่อป้องกันมิให้จำเลยอ้างสิทธิในเงินที่มีผู้มาช่วย และโจทก์ก็ได้รับเงินที่มีผู้นำมาช่วยงานศพไปแล้ว เป็นข้อตกลงที่ใช้บังคับได้และถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยต่อสู้ มูลหนี้ระหว่างโจทก์และจำเลยก็ไม่เกิดขึ้น สัญญากู้ที่ทำกันระหว่างโจทก์และจำเลยย่อมไม่สมบูรณ์ไม่มีผลบังคับ เท่ากับเป็นการนำสืบว่าสัญญาหรือหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๙๔ วรรคสอง จำเลยจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน

Share