คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2471

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาขายฝากทำก่อนประมวลแพ่งกรรมสิทธิอยู่กับผู้ขายสัญญาที่โจทก์ในคดีล้มละลายทำกับเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ไม่กินถึงคนภายนอก ( คนนอกสัญญา )

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่า เมื่อวันที่ ๒๐ พฤจิกา พ.ศ. ๒๔๖๙ ศาลแพ่งได้ พิพากษาให้ ต. เปนคนล้มละลาย ครั้นวันที่ ๒๔ จำเลยได้นำยึดเรือนแลโรงกับห้องแถวรายพิพาทนี้ แลจำเลยได้ทำ สัญญากับเจ้าพนักงานว่ายอมรับผิดในค่าเสียหายอันจะเกิดจากการยึดนั้น ครั้นวันที่ ๑๙ มกรา เจ้าพนักงานได้จัดการขายทรัพย์รายนี้ ต่อมาวันที่ ๒๔ โจทก์ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ว่า โจทก์เปนผู้รับซื้อฝากทรัพย์รายนี้ไว้จาก ต. ผู้ล้มละลายเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกา พ.ศ. ๒๔๖๘ มีกรมธรรม์สัญญาเปนหลักฐาน ขอให้เจ้าพนักงานงดการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์สั่งยกคำร้องเพราะกองหมายได้ขายทรัพย์นั้นไปแล้ว ต่อมา โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลคดีต่างประเทศให้เรียก จำเลยแลผู้เกี่ยวข้องในคดีมาเปนคู่ความตาม พรบ ล้มละลายมาตรา ๗๖ ศาลสั่งยกคำร้องเสียอีก ระหว่าง อุทธรณ์โจทก์ขอถอนอุทธรณ์แล้วกลับมาฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้ราคาทรัพย์รายพิพาทหนี้
ศาลต่างประเทศตัดสินว่า เมื่อ ต. เปนคนล้มละลายแล้วตั้งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ ๆ มีน่าที่จะจัดการทรัพย์สมบัติของ ต. แต่ผู้เดียว เมื่อเจ้าพนักงานทำผิดถูกอย่างไรโจทก์อาจเรียกคืนจากเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ได้ เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรื่องนี้ถึงจะเปนการขายฝากกันก็ดีโจทก์ยังไม่ชะนะคดี เพราะขายฝากกันก่อน ใช้ประมวลแพ่ง กรรมสิทธิในทรัพย์อยู่กับเจ้าของเดิมตามฎีกาที่ ๖๓๑/๒๔๖๔ ถึงแม้ว่าห้องแถวจะเปนสังหาริมทรัพย์ก็ตาม ต้อง วินิจฉัยตามฎีกาที่ ๔๘๕/๒๔๕๗ คือขณะที่ยึดนั้นผู้ล้มละลายยังเปนเจ้าของอยู่ โจทก์ควรไปร้องกับเจ้าพนักงาน ซึ่งตัดสินยืนตาม ศาลเดิม
ฎีกาเห็นว่า สัญญาที่จำเลยทำกับเจ้าพนักงานนั้นไม่กินความถึงคนภายนอก จึงตัดสินยืนตามศาลล่าง

Share