คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1419/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้รับมฤดกได้ทำเอกสารเป็นการปราณีประนอมยอมความในการสละมฤดกถูกต้องตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1612, 850 และผู้รับมฤดกผู้รับผิดได้ลงชื่อไว้ให้แล้ว ผู้รับมฤดกคนอื่นที่มิได้สละสิทธิไม่จำต้องลงชื่อด้วย ก็ย่อมใช้ได้และผูกพันผู้รับมฤดกที่สละมฤดกนั้น.

ย่อยาว

ความว่า จำเลยไม่ใช้เงินตามคำพิพากษาท้ายยอมโจทก์จึงนำยึดเรือน ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าเป็นเรือนของผู้ร้อง ขอให้ถอนการยึด คู่ความรับกันว่าเรือนหลังนี้เป็นสินสมรสระหว่างนายแอ๊วกับผู้ร้อง ซึ่งเป็นบิดามารดานางพลอยจำเลย นายแอ๊วตายแล้ว มีผู้รับมฤดก ๔ คน คือ ผู้ร้อง นางเพ็ชร นางสาวถนอม และนางพลอยจำเลยผู้ร้องส่งเอกสารฉะบับหนึ่งซึ่งอ้างว่านางพลอยได้รับส่วนแบ่งมฤดกไปแล้วตามเอกสารฉะบับนี้โจทก์แถลงรับว่านางพลอยได้ทำเอกสารนี้ไว้จริง แต่เป็นการสละมฤดกซึ่งทำหม่ถูกต้องตามกฎหมาย คู่ความไม่สืบพะยานขอให้ศาลวินิจฉัยว่าเอกสารนี้จะใช้ได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เรือนรายพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างนายแอ๊วกับผู้ร้อง ส่วนของนายแอ๊ว เป็นมฤดกตกแก่นางพลอยหนึ่งส่วน โจทก์มีสิทธิยึดได้ ให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา.
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเอกสารที่พิพาทมีข้อความว่า ข้าพเจ้านางพลอย บำรุงจิตร ขอทำใบรับเงินให้ไว้แก่นางเรือน บำรุงจิตร ดังมีข้อความต่อไปนี้
ด้วยบรรดาทรัพย์สมบัติมฤดกทุก ๆ อย่าง ซึ่งเป็นของนายแอ๊วนางเรือง บำรุงจิตรบิดามารดาของข้าพเจ้านั้น เวลานี้ข้าพเจ้าได้ส่วนแบ่งซึ่งเป็นมฤดกที่ข้าพเจ้าจะได้รับนี้เป็นเงิน ๕๐๐๐ บาท (ห้าพันบาทถ้วน) เงินจำนวนนี้ ข้าพเจ้าได้รับไปจากนางเรือง บำรุงจิตรแต่วันทำใบรับเงินนี้แล้ว และต่อไปข้าพเจ้าจะไม่เกี่ยวข้องในทรัพย์สมบัติซึ่งเป็นกอบมฤดกของนายแอ๊ว นางเรืองต่อไป ลงชื่อ นางพลอย
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความในเอกสารนี้เป็นการปราณีประนอมยอมความในการสละมฤดกถูกต้องตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๖๑๒, ๘๕๐ เพราะนางพลอยผู้รับผิดได้ลงชื่อไว้แล้ว ผู้รับมฤดกคนอื่นที่มิได้สละสิทธิไม่จำต้องลงชื่อด้วย.
พิพากษากลับ ให้ถอนการยึด.

Share