คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1415/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าที่ดินผู้อื่นมาเพื่อปลูกสร้างห้องและบ้านจะเป็นว่าเช่ามาเองโดยตรงจากเจ้าของก็ดี หรือรับโอนการเช่ามาจากผู้เช่าคนก่อนก็ดี เมื่อปรากฎว่าในที่ดินที่เช่านั้นมีผู้ปลูกเรือนให้คนอื่นเช่าอยู่มาก่อนที่ผู้เช่าคนหลังจะได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับที่ดินรายนี้แล้ว ผู้เช่าคนหลังก็ไม่มีอำนาจโดยลำพังที่จะฟ้องขับไล่ ผู้เช่าห้องในที่พิพาทนั้นให้ออกจากห้องนั้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าที่ดินพิพาทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิตรพูลได้ปลูกห้องลงในที่ดินนี้ โจทก์จึงฟ้องนายพิตรพูล ๆ ได้ตกลงประณีประนอม ยอมรื้อห้องที่อยู่ออกจากที่ดินพิพาทภายใน ๓ เดือนนับแต่ผู้เช่าออกจากห้อง ถ้าผู้เช่าไม่ออกจากห้อง เป็นเรื่องที่โจทก์จะว่ากล่าวกันเอง บัดนี้จำเลยไม่ยอมออกจากห้องดังกล่าวโจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากฟ้อง
จำเลยต่อสู้ว่าได้รับความคุ้มครอง ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์จะเป็นผู้เช่าที่ดินมาโดยตรงจากจุฬา ฯลฯ หรือโจทก์ได้รับโอนการเช่ามาจากคุณหญิงถนิม ก็มีผลเช่นเดียวกัน กล่าวคือจำเลยได้เข้าอยู่ในบ้านพิพาทมาก่อนที่โจทก์จะได้เข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินรายนี้ เมื่อโจทก์เข้าครอบครองที่เช่าไม่ได้ โจทก์ยังไม่มีสิทธิอันใดที่จะว่ากล่าวเอากับจำเลย ซึ่งไม่มีนิติสัมพันธ์อันใดกับโจทก์ และอีกประการหนึ่งโจทก์ไม่ใช่เจ้าของห้องโจทก์จะฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องของผู้อื่น ศาลนี้เห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจ ฯลฯ
จึงพิพากษายืน

Share