คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเทศบาลเป็นจำเลยว่าไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่จะต้องจัดให้มีและบำรุงทางน้ำ ทางบก และทางระบายน้ำ ตลอดจนการรักษาความสะอาดทำให้โจทก์และประชาชนทั่วไปไม่อาจใช้ทางน้ำสาธารณะเป็นทางสัญจรได้เหมือนแต่ก่อน ดังนี้ ย่อมหมายความว่าพลเมืองที่ใช้ทางน้ำสาธารณะนั้น ๆร่วมกันเป็นผู้ได้รับความเสียหาย ไม่ใช่ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป ไม่พอให้ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์กับจำเลย อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลนครธนบุรีมีสิทธิไปมาโดยทางบก ทางน้ำ ที่มีอยู่ในเขตเทศบาล จำเลยที่ 1 มีหน้าที่รักษาการตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 พระราชบัญญัติธรรมเนียมคลอง 10 ข้อ และพระราชบัญญัติจัดวางทางรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 และเป็นผู้บังคับบัญชาจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 มีหน้าที่ให้มีและบำรุงทางบก ทางน้ำ จัดให้มีและบำรุงทางระบายน้ำรักษาความสะอาดของถนนหรือทางเดินและที่สาธารณะ รวมทั้งการกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลในเขตเทศบาลธนบุรี จำเลยที่ 2 งดเว้นไม่ทำการตามหน้าที่และทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการสร้างทางหลวงโดยถมคลองแล้วฝังท่อระบายน้ำแทนบ้าง ถมคลองแล้วให้การรถไฟสร้างสถานีรถไฟทับบ้าง ถมคลองเพื่อสร้างถนนแล้วปล่อยให้ตื้นเขินบ้าง และปล่อยให้ประชาชน ทิ้งขยะมูลฝอยลงในคลองบางคลองจนตื้นเขิน ทั้งไม่บำรุงรักษาทางระบายน้ำในถนนบางสาย ทำให้โจทก์และประชาชนทั่วไปไม่อาจใช้ทางน้ำสาธารณะเป็นทางสัญจรได้ และเป็นการละเมิดต่อโจทก์ ขอให้บังคับให้จำเลยขุดลอกคลอง รื้อถอนสิ่งกีดขวางไปให้พ้นเขตคลอง และแก้ไขเปลี่ยนแปลงท่อระบายน้ำ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย จึงสั่งไม่รับฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ที่อ้างว่าจำเลยที่ 2 กระทำละเมิดก็คือ การที่จำเลยที่ 2 ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอันเกี่ยวกับหน้าที่ที่จะต้องจัดให้มีและบำรุงทางน้ำ ทางบก และทางระบายน้ำ ตลอดจนรักษาความสะอาด ทำให้โจทก์และประชาชนทั่วไปไม่อาจใช้ทางน้ำสาธารณะเป็นทางสัญจรไปมาได้เหมือนแต่ก่อน ดังนี้ ย่อมมีความหมายว่า พลเมืองที่ใช้ทางน้ำสาธารณะนั้น ๆ ร่วมกันเป็นผู้ได้รับความเสียหาย หากจำเลยที่ 2 ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนตามกฎหมายจริง ก็หาใช่ว่าโจทก์เป็นผู้ได้รับความเสียหายยิ่งกว่าประชาชนทั่วไปไม่ สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ไม่พอให้ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์กับจำเลย อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องร้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

พิพากษายืน

Share