แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่จำเลยลักกระบือของผู้เสียหาย. ผู้เสียหายไล่ติดตามอีก 10 วาจะทันจำเลยทิ้งกระบือวิ่งหนี. ผู้เสียหายไล่ตามต่อไปอีกเพื่อจะจับกุม. จำเลยชักปืนออกจ้อง.ย่อมเป็นการขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม. เป็นการกระทำต่อเนื่องกับการลักทรัพย์. เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 แล้ว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยชิงทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 4 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่าจำเลยควรมีความผิดฐานลักทรัพย์เพราะคนร้ายมีแต่จำเลยคนเดียว และจำเลยไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิง ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยลักกระบือของผู้เสียหายผู้เสียหายไล่ติดตามอีก 10 วาจนทัน จำเลยทิ้งกระบือวิ่งหนีผู้เสียหายไล่ติดตามต่อไปอีกเพื่อจะจับกุมจำเลยชักปืนออกจ้องขู่เข็ญในทันใดจะประทุษร้ายผู้เสียหาย ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยขู่เข็ญจะทำร้ายผู้เสียหายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เป็นการกระทำต่อเนื่องกับการลักทรัพย์ไม่จำเป็นที่จำเลยจะต้องมีพรรคพวกหรือใช้อาวุธปืนยิงการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย.