คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1406/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “ศาล” ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260 มิได้หมายความถึงศาลที่มีคำพิพากษาชั้นที่สุด เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องของโจทก์แล้ว ฎีกาของโจทก์ซึ่งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์ของจำเลยในระหว่างพิจารณาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาต่อไป

ย่อยาว

ในระหว่างพิจารณาคดี ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้อายัดที่ดินของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ขอให้ศาลชั้นต้นถอนการอายัด ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่า จำเลยมีหลักทรัพย์เพียงพอ และจำเลยไม่คิดจะฉ้อโกงโจทก์ จึงมีคำสั่งถอนการอายัดที่ดินแปลงดังกล่าว
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น
ต่อมาปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีนี้แล้ว โดยให้ยกฟ้องของโจทก์
ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาว่า เมื่อโจทก์แพ้คดีในศาลชั้นต้น คำสั่งเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์เป็นอันยกเลิกไปในตัว จึงให้ยกฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำว่า “ศาล” ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๐ มิได้หมายความถึงศาลที่มีคำพิพากษาชั้นที่สุด ดังที่โจทก์ฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องพิจารณาอุทธรณ์ของโจทก์ที่คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ถอนการอายัดในระหว่างพิจารณาต่อไป
พิพากษายืน

Share