คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ธนาคารจ่ายเงินให้แก่ผู้ทรงเช็คไปตามเช็คที่มีลายเซ็นชื่อผู้เคยค้าเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อผู้เคยค้ามาฟ้องธนาคารอ้างว่าตนไม่ได้เซ็นสั่งจ่ายในเช็คดังกล่าวแล้ว ให้ธนาคารรับผิดชอบในจำนวนเงินที่ธนาคารจ่ายไปนั้น ธนาคารมีหน้าที่สืบแสดงว่าลายเซ็นสั่งจ่ายในเช็คเป็นลายเซ็นของผู้เคยค้าจริง ถ้าสืบไม่ได้ธนาคาร ก็ต้องรับผิดชอบในเงินจำนวนที่จ่ายไปนั้นและจะหักเงินนั้นจากบัญชีเดินสพัดของผู้เคยค้าไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์เป็นผู้เคยค้าของจำเลยโดยมีบัญชีเงินฝากและเงินถอนประเภทธรรมดาที่ธนาคารจำเลยจำเลยได้จ่ายเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ ๒ รายการโดยไม่ชอบ รวมเป็นเงิน ๔๓๐๐๐ บาท ทั้งนี้โดยโจทก์มิได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คทั้ง ๒ ฉะบับนั้น จึงขอให้จำเลยใช้เงินจำนวนนี้และดอกเบี้ย
จำเลยต่อสู้ว่า ได้จ่ายเงินให้ผู้ทรงเช็คไปโดยได้ตรวจสอบลายมือชื่อแล้วว่าเป็นลายมือชื่อของโจทก์ผู้สั่งจ่ายทั้ง ๒ ฉะบับ หาได้จ่ายไปโดยประมาทเลินเล่อแต่ประการใด จึงไม่ควรต้องรับผิด
ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า ธนาคารจำเลยจ่ายเงินไปตามเช็ค ๒ รายมิได้ปฏิบัติผิดระเบียบอันจะปรับเป็นความรับผิดหรือความประมาทเลินเล่อ และคดีไม่มีหลักฐานพอให้ชี้ว่าลายเซ็นชื่อในเช็คเป็นลายเซ็นปลอม พิพากษายกฟ้อง
แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ลายเซ็นในเช็คไม่ใช่ลายเซ็นโจทก์ พิพากษาว่าโจทก์ไม่ได้เซ็นสั่งจ่าย โจทก์ไม่ต้องรับผิด จำเลยจะหักจากบัญชีเดินสะพัดของโจทก์ไม่ได้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้จำเลยมีหน้าที่สืบแสดงว่า เช็คพิพาทที่สั่งจ่ายเป็นของโจทก์ และโจทก์ได้เซ็นเช็คนั้น แต่จำเลยก็สืบฟังไม่ได้ ส่วนลายเซ็นฝ่ายจำเลยว่าเป็นลายเซ็นของโจทก์ แต่ก็มิได้เห็นในขณะเซ็น ซึ่งโจทก์ปฏิเสธว่ามิได้เซ็น และมีพยานผู้ชำนาญสืบว่าไม่ใช่ลายเซ็นของโจทก์ด้วยเช่นนี้ นับว่าเป็นหลักฐานพยานจำเลยไม่พอให้เชื่อฟังตามข้อต่อสู้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีชอบแล้ว และการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาบังคับคดีเช่นนั้น เป็นการขอมากให้เป็นน้อยมิได้เกินคำขอ
จึงพิพากษายืน

Share