คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อัยการฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุก จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ ต่อมาผู้เสียหายได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งอีกสำนวนหนึ่ง จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิเช่นเดียวกัน จำเลยคงต่อสู้กรรมสิทธิเช่นเดียวกัน ศาลย่อมอาจใช้ดุลยพินิจที่จะเลื่อนคดีอาญาไว้รอฟังผลคดีแพ่งเสียก่อนหรือไม่ก็ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจบุกรุกเข้าไปครอบครองและทำนาในที่ดินของนางพลอย จุลสาย โฉนดที่ ๓๕๗๔ โดยรู้ว่าตนไม่มีสิทธิ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญามาตรา ๓๒๗
จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย อยู่นอกโฉนดโจทก์
ศาลชั้นต้นตรวจสำนวนคดีแพ่งแดงที่ ๑๑๘/๒๔๙๔ แล้วเห็นว่าคดีนี้จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิจึงให้รอคดีนี้ไว้ก่อนเพื่อฟังผลคดีแพ่งโดยให้จำหน่ายคดีเสียชั่วคราว
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นควรดำเนินการพิจารณาต่อไป เพราะ ผู้เสียหายอาจไม่ยอมฟ้องคดีแพ่งก็ได้ พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าปรากฏตามฎีกาที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาว่าผู้เสียหายได้ฟ้องคดีแพ่งแล้ว จึงเห็นว่าเมื่อผู้เสียหายฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งอีกสำนวนหนึ่งและจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิเช่นเดียวกับคดีอาญา คดีย่อมอยู่ในดุลยพินิจของศาล พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นใช้ดุลยพินิจในการที่จะดำเนินการพิจารณาคดีไปหรือจะเลื่อนคดีรอไว้ตามแต่จะเห็นสมควร.

Share