คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาให้หย่าเพราะสามีเป็นฝ่ายผิด ศาลพิพากษาให้สามีจ่ายค่าอุปการเลี้ยงดูแก่ภริยาได้

ย่อยาว

ศาลพิพากษาให้โจทก์ จำเลยหย่าขาดจากสามีภริยากัน คดีมาสู่ศาลฎีกาในปัญหาเรื่องค่าอุปการเลี้ยงดู ศาลฎีกาพิพากษาว่า

“ส่วนเงินค่าเลี้ยงดูนั้น ปัญหาอยู่ที่ว่าต้องหย่ากันเพราะความผิดของฝ่ายไหน โจทก์นำสืบว่าเพราะจำเลยไปติดพันหญิงคนใหม่และห้ามไม่ให้โจทก์ขัดขวาง โจทก์ไม่ฟัง จำเลยก็ออกจากบ้านไปภายหลังจำเลยได้ทุบตีโจทก์ถึง 2 ครั้ง

ฝ่ายจำเลยนำสืบว่าโจทก์กินยาให้แท้ง ซึ่งจำเลยเข้าใจว่าโจทก์ท้องกับชายอื่นหรือท้องก่อนสมรส จำเลยจึงได้ออกจากบ้านไปจำเลยได้ทุบตีโจทก์เพียงครั้งเดียวเพราะโจทก์ด่าว่าจำเลย

ศาลฎีกาได้พิเคราะห์คำพยานทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเห็นว่า รูปคดีน่าเชื่อข้างฝ่ายโจทก์เพราะการหึงหวงย่อมเป็นวิสัยของหญิงจำเลยไม่พอใจถึงออกจากบ้านไป เนื่องจากความไม่พอใจจึงทุบตีโจทก์ฝ่ายพยานจำเลยนั้นไม่น่าเชื่อ เพราะโจทก์เบิกความว่าได้รักใคร่กับจำเลยตั้งแต่จำเลยยังเป็นนักเรียนเตรียมนายเรือ ซึ่งไม่ใช่เวลาเล็กน้อย และจำเลยก็สำเร็จการศึกษามาจนได้เป็นนายเรือโทแล้วจึงสมรสกัน ถ้าจำเลยไม่มั่นใจในความรักของโจทก์แล้ว จำเลยจะจดทะเบียนสมรสกับโจทก์เพื่อประโยชน์อะไร ข้อนำสืบของจำเลยฟังไม่ได้ รูปคดีฟังได้ว่าการหย่าเกิดจากความผิดของฝ่ายจำเลย ๆต้องรับผิดให้ค่าเลี้ยงดูตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1506

ข้อวินิจฉัยต่อไปมีว่าโจทก์ควรได้ค่าเลี้ยงดูเดือนละเท่าไรศาลนี้เห็นว่า เวลานี้จำเลยมีเงินเดือน ๆ ละ 1,000 บาท ถ้าต้องให้ค่าเลี้ยงดูโจทก์ถึงเดือนละ 500 บาท ก็มากเกินควร แต่จะให้เพียงเดือนละ 100 บาท ดังจำเลยขอมาก็ไม่พอแก่การใช้จ่ายในระหว่างนี้ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าเลี้ยงดูเดือนละ 300 บาท จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1596 นั้นเหมาะสมกับฐานะและความเป็นอยู่ของคู่ความในขณะนี้แล้ว”

พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share