คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ตามพฤติการณ์แห่งคดี จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาโดยตลอด ทั้งที่พยานจำเลยมีเพียง 2 ปาก ซึ่งรวมทั้งตัวจำเลยด้วย ทั้งคดีเช็คนี้เป็นคดีไม่ยุ่งยาก ศาลชั้นต้นก็ให้โอกาสจำเลยเพื่อนำพยานมาสืบ ครั้นเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้สืบพยานจำเลยใหม่ก็มีการขอถอนทนายจำเลยและเมื่อจำเลยทราบเรื่องการถอนตัวของทนายจำเลยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2542 จำเลยก็ไม่ขวนขวายแต่งทนายความคนใหม่จนกระทั่งถึงวันนัดจึงได้แต่งทนายความคนใหม่ ทั้งที่ศาลนับสืบพยานจำเลยวันที่ 8 ตุลาคม 2542 และในวันนัดจำเลยก็ไม่มาศาลทั้งที่จำเลยเป็นพนักงานอัยการทำงานอยู่ใกล้กับศาลชั้นต้น แสดงว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดี ที่จำเลยฎีกาว่าทนายความคนใหม่ติดว่าความคดีอื่นนั้น ตามพฤติการณ์แล้วน่าเชื่อว่าจำเลยจงใจที่จะแต่งตั้งทนายความที่ติดว่าความคดีอื่นเพื่อขอเลื่อนคดีต่อไป จำเลยเป็นพนักงานอัยการคดีแพ่งก็ย่อมทราบเรื่องคดีตัวเองดี ถึงแม้ทนายจำเลยจะติดว่าความคดีอื่น จำเลยสามารถที่จะมาศาลและอ้างตนเองเข้าเบิกความเป็นพยานได้ด้วยตนเองและจำเลยทราบล่วงหน้าแล้วว่าศาลนัดสืบพยานจำเลย จำเลยย่อมมีเวลาที่จะหาทนายความคนใหม่ที่มีวันว่างที่จะมาศาลได้ เหตุที่จำเลยอ้างจึงไม่เป็นเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ และจำเลยก็ไม่แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลได้ว่าถ้าศาลไม่ให้เลื่อนต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ไม่ต้องด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 40

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน 1,936,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี จากต้นเงิน 1,600,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว ในวันนัดสืบพยานจำเลยตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่าไม่มีพยานมาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีโดยถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน และนัดฟังคำพิพากษาตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 25 มีนาคม 2541
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,648,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 1,600,000 บาท นับแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2539 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนเท่าที่โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานจำเลยแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นนับสืบพยานจำเลย ในวันนัดสืบพยานจำเลยตามที่เลื่อนมา ทนายจำเลยแถลงว่า เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายจำเลยในวันนี้ จึงขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการประวิงคดี ให้งดสืบพยานจำเลยและนัดฟังคำพิพากษาตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 8 ตุลาคม 2542
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 1,600,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2538 จนกว่าจะชำระเสร็จให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยค่าขึ้นศาลให้ชดใช้แทนเท่าที่โจทก์ชนะคดี กำหนดค่าทนายความให้ 40,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,600,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2539 จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี แล้วมีคำพิพากษาชอบหรือไม่ ปรากฏว่าเมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้ว ศาลชั้นต้นนับสืบพยานจำเลยวันที่ 19 มกราคม 2541 เมื่อถึงวันนัด ทนายจำเลยมาศาลขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 17 และ 25 มีนาคม 2541 เมื่อถึงวันนัดวันที่ 17 ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่า ทนายจำเลยป่วยมาศาลไม่ได้ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 25 ตามที่นัดไว้เดิม เมื่อถึงวันนัดทนายจำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่า จำเลยและนายมงคล จิรชัยสกุล พยานจำเลยติดราชการ โจทก์คัดค้านอ้างว่าจำเลยประวิงคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยใหม่ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 30 เมษายน 2542 และนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 16 กรกฎาคม 2542 ตามที่จำเลยขอ ถึงวันนัดทนายจำเลยยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความและขอเลื่อนคดีอ้างว่า หาตัวจำเลยไม่พบ โจทก์คัดค้านว่าจำเลยเป็นพนักงานอัยการทำงานอยู่ที่สำนักงานอัยการคดีแพ่งซึ่งอยู่ใกล้กับศาลชั้นต้นแต่ไม่ยอมมาศาล ทนายจำเลยแถลงว่าแจ้งวันนัดให้จำเลยทราบแล้ว แต่จำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีไปสืบพยานจำเลยวันที่ 8 ตุลาคม 2542 และแจ้งเรื่องการถอนตัวการเป็นทนายความให้จำเลยทราบ ถึงวันนัดจำเลยไม่มาศาล แต่ได้แต่งตั้งทนายความคนใหม่ ในวันนัด ทนายความคนใหม่มาศาลแถลงขอเลื่อนคดีอ้างว่าเพิ่งได้รับแต่งตั้ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยประวิงคดีจึงให้งดสืบพยานจำเลย เห็นว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดีจำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาโดยตลอด ทั้งที่พยานจำเลยมีเพียง 2 ปาก ซึ่งรวมทั้งตัวจำเลยด้วยและเป็นคดีไม่ยุ่งยาก ศาลชั้นต้นก็ให้โอกาสจำเลยเพื่อนำพยานมาสืบ ครั้นเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้สืบพยานจำเลยใหม่ก็มีการขอถอนทนายจำเลยและเมื่อจำเลยทราบเรื่องการถอนตัวของทนายจำเลยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2542 จำเลยก็ไม่ขวนขวายแต่งทนายความคนใหม่จนกระทั่งถึงวันนัด จึงได้แต่งทนายความคนใหม่ ทั้งที่ศาลนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 8 ตุลาคม 2542 ซึ่งนับจากเดือนกรกฎาคม 2542 จนถึงวันนัดเป็นเวลาร่วม 2 เดือนเศษ และในวันนัดจำเลยก็ไม่มาศาลทั้งที่จำเลยเป็นพนักงานอัยการทำงานอยู่ใกล้กับศาลชั้นต้น แสดงว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดี ที่จำเลยฎีกาว่า ทนายความคนใหม่ติดว่าความคดีอื่นนั้นตามพฤติการณ์แล้วน่าเชื่อว่าจำเลยจงใจที่จะแต่งตั้งทนายความที่ติดว่าความคดีอื่นเพื่อขอเลื่อนคดีต่อไป จำเลยเป็นพนักงานอัยการคดีแพ่งก็ย่อมทราบเรื่องคดีตัวเองดีถึงแม้ทนายจำเลยจะติดว่าความคดีอื่น จำเลยสามารถที่จะมาศาลและอ้างตนเองเข้าเบิกความเป็นพยานได้ด้วยตนเองและจำเลยทราบล่วงหน้าแล้วว่าศาลนัดสืบพยานจำเลย จำเลยก็ย่อมมีเวลาที่จะหาทนายความคนใหม่ที่มีวันว่างที่จะมาศาลได้ เหตุที่จำเลยอ้างจึงไม่เป็นเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ และจำเลยก็ไม่แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลได้ว่าถ้าศาลไม่ให้เลื่อนต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรม ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 40 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยใช้ค่าทนายความ 40,000 บาท แทนโจทก์มากเกินไปและขอให้ลดลงนั้น เห็นว่า ทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี 1,600,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับว่าเป็นทุนทรัพย์ที่สูง โจทก์นำพยานมาสืบรวม 5 นัด และทนายโจทก์ต้องมาศาลอีกหลายนัดในวันนัดสืบพยานจำเลยที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยใช้ค่าทนายความแทนโจทก์ทั้งสองศาลเป็นเงิน 40,000 บาท นั้นเหมาะสมแล้วไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share