คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นผู้ร้องสอดหรือไม่ มีประเด็นต้องวินิจฉัย 2 ประเด็น คือ ประเด็นว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีอันจะเป็นเหตุให้ผู้ร้องมีอำนาจร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความได้หรือไม่ และประเด็นว่ากรณีมีเหตุสมควรอนุญาตให้เข้ามาในคดีได้หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกซึ่งเป็นเหตุให้ผู้ร้องมีส่วนได้เสียในคดีนี้ จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นเรื่องอำนาจร้องสอดของผู้ร้อง คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกคำร้องสอดหรือนอกประเด็น แม้คำวินิจฉัยที่ว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบ ของเจ้ามรดกมีผลกระทบต่อสิทธิ ของโจทก์ในฐานะทายาทของเจ้ามรดก ซึ่งทำให้โจทก์มีสิทธิฎีกา ขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องไม่ใช่ภริยาโดยชอบก็ตาม แต่ปัญหาดังกล่าว เป็นปัญหาสำคัญที่สมควรนำไปวินิจฉัย ในคดีที่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาโดยตรงของคดีเมื่อคดีนี้ผู้ร้องไม่ได้ ฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ที่ยกคำร้องสอด เพราะไม่เห็นสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดี ปัญหาในเรื่องการร้องสอดของผู้ร้องจึงยุติไปแล้ว การที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยฎีกาข้อนี้ของโจทก์ ไม่ว่าวินิจฉัยในทางใดย่อมไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำสั่งศาลล่าง ฎีกาข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ในคดีนี้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 219 วรรคสอง และพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 23 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกับจำเลยทั้งหก โดยเป็นบุตรของนายชวลิต เจ้ามรดกกับผู้ร้องได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งหก ขอให้จำเลยทั้งหกนำทรัพย์มรดกที่ได้รับไปคนละ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 17,240,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยกลับมาคืนเข้ากองมรดกของนายชวลิตต่อไป จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ยื่นคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องสอดขอเข้าเป็นจำเลยร่วม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว วินิจฉัยว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกเพราะการหย่าระหว่างผู้ร้องกับเจ้ามรดกเป็นการกระทำเพื่ออำพรางการสมรส เป็นการวินิจฉัยนอกคำร้องสอดและนอกประเด็นนั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งหกในฐานะทายาทของเจ้ามรดกคืนทรัพย์มรดกที่ได้รับการแบ่งไปแล้วโดยไม่ชอบกลับมาคืนกองมรดก และผู้ร้องกล่าวอ้างมาในคำร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิในเงินที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนจากจำเลยทั้งหกกึ่งหนึ่งในฐานะภริยาของเจ้ามรดก และยังมีสิทธิได้รับมรดกในฐานะเป็นทายาทของเจ้ามรดกด้วย ซึ่งโจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกเพราะจดทะเบียนหย่ากับเจ้ามรดกแล้ว เห็นว่า ในการพิจารณาปัญหาว่าจะอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นผู้ร้องสอดหรือไม่ มีประเด็นต้องวินิจฉัยสองประเด็น คือ ประเด็นว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีอันจะเป็นเหตุให้ผู้ร้องมีอำนาจร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความได้หรือไม่ และประเด็นว่ากรณีมีเหตุสมควรอนุญาตให้เข้ามาในคดีหรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกซึ่งเป็นเหตุให้ผู้ร้องมีส่วนได้เสียในคดีนี้จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นเรื่องอำนาจร้องสอดของผู้ร้อง คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกคำร้องสอดหรือนอกประเด็นแต่อย่างใด ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share