แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยรับโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ 45 วัน ต่อมา 6 ปีเศษต้องโทษฐานทำร้ายต่อทรัพย์และทำร้ายร่างราย 1 เดือน ต่อมา 13 ปีเศษจึงมาต้องโทษครั้งหลังฐานทำร้ายร่างกาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และมีระยะเวลาห่างไกลกันยังไม่ควรลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือนและให้ส่งไปกักกัน 3 ปีศาลอุทธรณ์ให้ยกโทษกักกัน ดังนี้ โจทก์ฎีกาในเรื่องขอให้ลงโทษกักกันได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟอ้งจำเลยรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔ จำคุก ๖ เดือน เพิ่มโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๒ ลดกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๕๙ คงเหลือ ๔ เดือน กับให้ส่งตัวไปกักกัน ๓ ปี ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ๒๔๗๙ มาตรา ๔, – ๘, – ๙
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้ลงโทษฐานกักกันเสีย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยรับโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ ๔๕ วันต่อมา ๖ ปีเศษต้องโทษฐานทำร้ายต่อทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ๑ เดือน ต่อมา ๑๓ ปีเศษจึงมาต้องโทษในคดีนี้ เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และมีระยะเวลาห่างกันยังไม่ควรลงโทษกักกันจำเลย
จึงพิพากษายืน