แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
อายุความที่กฎหมายกำหนดไว้ผู้ใดหาอาจขยายออกหรือย่นเข้าได้ไม่ ข้อบังคับของบริษัทนายจ้างที่ให้ลูกจ้างยื่นคำร้องขอรับบำเหน็จต่อบริษัทเมื่อพ้นจากการเป็นพนักงานภายใน 3 เดือนจึงไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าบำเหน็จ88,000 บาทแก่โจทก์ กับดอกเบี้ย จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “เชื่อได้ว่า โจทก์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากบริษัทจำเลยและขอรับเงินบำเหน็จต่อจำเลยตามหนังสือขอลาออก และขอรับบำเหน็จตามภาพถ่ายเอกสารหมาย จ.5 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2519แม้หนังสือขอลาออกตามภาพถ่ายเอกสารหมาย จ.5 ไม่ได้ลงวันที่ไว้ก็หาเป็นพิรุธแต่ประการใดไม่ เพราะอาจจะหลงลืมไปได้ อนึ่ง ศาลฎีกายังเห็นต่อไปว่าสิทธิเรียกร้องเอาเงินบำเหน็จจากจำเลยนั้นมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(8) และอายุความที่กฎหมายกำหนดไว้นั้น ผู้ใดหาอาจจะขยายออกหรือย่นเข้าได้ไม่ ตามมาตรา 191 ดังนั้นข้อบังคับของบริษัทจำเลยที่ให้ผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จประสงค์จะรับเงินบำเหน็จดังกล่าว ให้ยื่นคำร้องต่อบริษัทเมื่อพ้นจากการเป็นพนักงานของบริษัทแล้วภายในกำหนด 3 เดือน จึงหามีผลบังคับตามกฎหมายแต่อย่างใดไม่”
พิพากษายืน