แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โรงงานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้วตามกำหนดในมาตรา 23 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติโรงงาน 2482 นั้น เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีนับแต่วันใช้ พระราชกฤษฎีกาแล้วยังคงดำเนินงานต่อไปโดยไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียนตั้งโรงงานอีกนั้น ยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 23 แห่ง พระราชบัญญัติโรงงาน 2482 เพราะความในมาตรานี้บังคับเอาผิดแก่เจ้าของโรงงานที่มิได้มารายงานขึ้นทะเบียนตามกำหนดในวรรคหนึ่ง
ย่อยาว
คดีได้ความว่า จำเลยเป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงงานย้อมผ้ายี่ห้อเฮ่งง่วนเซ่งเชียงใช้คนงานเป็นปกติตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งตั้งทำการมาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2490 อันเป็นวันใช้พระราชกฤษฎีกาให้ใช้ พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 บังคับแก่โรงงานทุกชนิดในท้องที่จังหวัดพระนครและธนบุรี พ.ศ. 2489 และจำเลยได้ขึ้นทะเบียนโรงงานนี้ไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ครั้นพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันใช้พระราชกฤษฎีกาดังกล่าว คือตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2492 ตลอดมาจนถึงวันฟ้องนี้ จำเลยได้บังอาจตั้งและเปิดโรงงานทำการย้อมผ้าดังกล่าวเรื่อยมา โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเปิดโรงงานจากเจ้าพนักงานได้ตามกฎหมาย โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน2482 มาตรา 6, 9, 19, 23 ปรับ 150 ลดกึ่งแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยความในมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติโรงงานว่า โรงงานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีนับแต่วันใช้พระราชกฤษฎีกาแล้ว ยังคงดำเนินงานต่อไป จะต้องขออนุญาตขึ้นทะเบียนตั้งโรงงานอีกหรือไม่เมื่อพิเคราะห์ตามมาตรา 23 แล้วเห็นว่า เป็นเรื่องเอาผิดแก่เจ้าของโรงงานที่มิได้มารายงานขึ้นทะเบียนตามกำหนด แต่คดีนี้ปรากฎว่าโรงงานจำเลยได้ขึ้นทะเบียนแล้ว จึงจะเอาผิดแก่จำเลยมิได้
จึงพิพากษายืน