แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเอาเรือยนตร์ไปส่งผู้ร้ายทำการปล้น ในขณะปล้น จำเลยลอยเรือคอยรับอยู่ห่างที่ปล้น 15 เส้นถือว่าจำเลยมีผิดฐานสมรู้ในการปล้น.
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้ลงเรือยนตร์ร่วมเดินทางมากับพวกผู้ร้ายเป็นเวลา ๕ วัน แล้วพวกผู้ร้ายยกลงเรือสัมปั้นไปทำการปล้นทรัพย์ จำเลยคงอยู่ในเรือยนตร์ลอยอยู่ในแม่น้ำห่างบ้านเกิดเหตุ ๑๕ เส้นคอยรับพวกปล้น เมื่อปล้นแล้วผู้ร้ายก็พากันไป แต่มีกำนันไปสะกัดจับผู้ร้าย ได้ยิงผู้ร้ายตามหนึ่งคน
ผู้ร้ายอีก ๓ คนยอมให้จับโดยดี แล้วจำเลยก็พาเรือยนตร์หนีไป ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดต่อกฎหมายอาญา ม.๖๓,๖๔,๓๐๑.
จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดต่อกฎหมายอาญา ม.๖๕,๓๐๑
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่า รูปคดีเป็นสมรู้ เพราะจำเลยให้กำลังพาหนะแก่ผู้ร้ายปล้น จึงพิพากษายืน