คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.4 เป็นเรื่องโจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายปอฟอกกัน แม้เอกสารหมาย จ.1 มีข้อความตอนหนึ่งว่า “ปอจำนวนนี้ ข้าฯ จะส่งมาภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2509 เมื่อส่งครบจำนวนแล้ว คิดตามราคาท้องตลาดเสร็จแล้วหักทุนออก เหลือเท่าไรจึงแบ่งฝ่ายละครึ่งของผลกำไร” ก็ตาม ก็เป็นข้อตกลงอีกอันหนึ่งว่า ภายหลังที่ขายปอให้กันแล้ว โจทก์ (ผู้ซื้อ) จะต้องแบ่งกำไรให้จำเลย (ผู้ขาย) ด้วยเท่านั้น หาทำให้สัญญาซื้อขายกลายเป็นสัญญาเข้าหุ้นส่วนไปไม่ เพราะจำเลยยอมรับแต่ผลกำไรฝ่ายเดียว เมื่อขาดทุนไม่ต้องออกด้วย

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ทำสัญญารับเงินจากโจทก์โดยจำเลยที่ ๑ ตกลงขายปอฟอกให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับจำเลยที่ ๑ ชำระหนี้เป็นปอฟอก ๑๓,๙๐๐ กิโลกรัมแก่โจทก์ หรือชำระเป็นเงิน ๒๔,๓๒๕ บาทแทน ให้จำเลยที่ ๒ ชำระหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกัน ฯลฯ
จำเลยที่ ๑ ให้การว่าโจทก์จำเลยร่วมเป็นหุ้นส่วนกัน ฯลฯ จำเลยที่ ๒ ให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระหนี้ตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้องโจทก์
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ในชั้นฎีกามีปัญหาว่า เอกสารหมาย จ.๑ ถึง จ.๔ นั้น เป็นสัญญาซื้อขายหรือสัญญาเข้าหุ้นส่วน ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นเรื่องโจทก์และจำเลยที่ ๑ ทำสัญญาซื้อขายปอฟอกกัน เพราะอ่านแล้วได้ความชัดเช่นนั้น จริงอยู่แม้สัญญาตามเอกสารหมาย จ.๑ มีข้อความตอนหนึ่งเขียนไว้ว่า “ปอจำนวนนี้ข้าฯ จะส่งมาภายในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๐๙ เมื่อส่งครบจำนวนแล้ว คิดราคาตามท้องตลาด เสร็จแล้วหักทุนออก เหลือเท่าไรจึงแบ่งกำไรฝ่ายละครึ่งของผลกำไร” ก็ตาม ก็เป็นข้อตกลงอีกอันหนึ่งว่า ภายหลังที่ขายปอให้กันแล้ว โจทก์จะต้องแบ่งกำไรให้จำเลยที่ ๑ ด้วยเท่านั้น หาทำให้สัญญาซื้อขายนั้นกลายเป็นสัญญาเข้าหุ้นส่วนไปไม่ เพราะจำเลยที่ ๑ ยอมรับแต่ผลกำไรอย่างเดียว เมื่อขาดทุนไม่ต้องออกด้วย จึงหาใช่เป็นหุ้นส่วนกันไม่
พิพากษายืน

Share