คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อฟ้องโจทก์เป็นเรื่องขอให้เพิกถอนนิติกรรมยกที่ดินให้ ส. ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยโดยอ้างว่าเดิม ส. ได้หลอกลวงให้โจทก์พิมพ์ลายนิ้วมือในแบบพิมพ์เพื่อไปถอนชื่อสามีโจทก์ซึ่งถึงแก่กรรมออกจาก ส.ค.1 และขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในชื่อโจทก์ แล้ว ส. กลับไปกรอกข้อความยกที่ดินโจทก์ให้แก่ ส. เอง ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นมารดาของ ส.และเป็นทายาทโดยธรรมของส. จำเลยเป็นคู่สมรสพิพากษาให้แบ่งที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยคนละครึ่งนั้น ย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะโจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งมรดกของส. ในฐานะทายาทโดยธรรม คดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยในฐานะทายาทโดยธรรมของ ส. จะมีส่วนแบ่งในที่พิพาทคนละเท่าใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเดิมโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับนายคงสามี เมื่อนายคงตายแล้ว นางสอนบุตรสาวโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาจำเลยได้ให้โจทก์ลงชื่อในแบบพิมพ์อ้างว่าจะไปถอนชื่อนายคงออกจาก ส.ค.1 และขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในชื่อของโจทก์แล้วนางสอนกลับไปกรอกข้อความยกที่พิพาทให้นางสอนเอง ขอให้ศาลพิพากษาว่านิติกรรมระหว่างโจทก์กับนางสอนเป็นโมฆะให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์และพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์

จำเลยให้การว่าโจทก์ได้ยกที่พิพาทให้แก่นางสอนภรรยาจำเลยโดยถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อภรรยาจำเลยถึงแก่กรรม จำเลยพร้อมที่จะแบ่งที่พิพาทให้แก่โจทก์ในฐานะโจทก์เป็นทายาทโดยชอบธรรมของภรรยาจำเลย

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ได้ยกที่พิพาทให้นางสอนโดยไม่ได้ถูกหลอกลวงแต่ที่พิพาทเป็นมรดกนางสอน โจทก์เป็นมารดาของเจ้ามรดก ส่วนจำเลยเป็นคู่สมรสของเจ้ามรดก ต่างมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งที่พิพาทคนละครึ่งหนึ่ง พิพากษาแบ่งที่พิพาทให้โจทก์จำเลยคนละครึ่ง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ได้แบ่งที่พิพาทเฉพาะส่วนของโจทก์ให้นางสอนโดยสมัครใจ นิติกรรมยกให้จึงสมบูรณ์ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเลยไปถึงว่าที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดกของนางสอนและพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทให้โจทก์จำเลยคนละครึ่งนั้น เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142 ทั้งจำเลยมิได้ฟ้องแย้งและเสียค่าขึ้นศาล จึงไม่ชอบที่จะพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทให้โจทก์จำเลยคนละครึ่ง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์มิได้แสดงเจตนาด้วยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งนิติกรรมยกให้ นิติกรรมมิได้ตกเป็นโมฆะ และการที่โจทก์ฎีกาว่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทชอบแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 นั้น เห็นว่าคดีนี้โจทก์มิได้ฟ้องขอแบ่งมรดกนางสอนในฐานะที่โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของนางสอน คดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยในฐานะเป็นทายาทโดยธรรมของนางสอนจะมีส่วนแบ่งในที่พิพาทคนละเท่าใด คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในข้อนี้เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น

พิพากษายืน

Share