คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

“หมอความ” ตามมาตรา 165(15) นั้น ย่อมหมายถึงบุคคลผู้ถือเป็นอาชีพ หรือแสดงออกว่าเป็นผู้มีความรู้เพื่อรับจ้างในการใช้วิชากฎหมายโดยทั่วๆ ไป ที่ปรึกษากฎหมายจึงเป็นหมอความตามความหมายของมาตรา 165(15) ด้วย

ย่อยาว

คดีนี้บริษัทวีระจำกัดเป็นโจทก์ฟ้องว่า บริษัทศรีราชาจำเลยได้แต่งตั้งให้โจทก์เป็นที่ปรึกษากฎหมายตั้งแต่วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๕ ตกลงให้ค่าป่วยการเดือนละ ๑๐๐ บาท ปีหนึ่งจ่ายครั้งหนึ่ง โจทก์ยังมิได้รับค่าป่วยการจากจำเลยจนถึงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๔๙๑ ขอให้จำเลยใช้เงิน ๖๓๐๐ บาท และดอกเบี้ย
จำเลยปฏิเสธว่า ไม่พบหลักฐานว่าได้ว่าจ้างโจทก์และตัดฟ้องว่า คดีขาดอายุความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๖๕(๑๕)
ศาลแพ่งพิพากษาว่า ให้จำเลยใช้เงิน ๖๓๐๐ บาท กับดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามมาตรา ๑๖๕(๑๕) มิได้มุ่งหมายประสงค์จะจำกัดอายุความสองปี แต่เฉพาะค่าธรรมเนียมของบุคคลที่มีอาชีพในทางรับว่าต่างแก้ต่างในคดีในโรงศาลเท่านั้น จึงได้มีถ้อยคำกล่าวถึงหมอความไว้ด้วยคำว่าหมอความนี้ศาลฎีกาเห็นว่าย่อมหมายถึงบุคคลผู้ถืออาชีพ หรือแสดงออกว่าเป็นผู้มีความรู้เพื่อรับจ้างในการใช้วิชากฎหมายโดยทั่ว ๆ ไป
ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่าที่ปรึกษากฎหมายไม่ใช่หมอความ ตามความในอนุมาตรา ๑๕ นั้น เห็นว่าต้องดูถึงกิจการที่ทำประกอบกับความประสงค์ของกฎหมายที่บัญญัติไว้สำหรับบังคับเป็นสำคัญสิทธิเรียกร้องของ โจทก์ก่อนวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๔๘๙ ได้ขาดอายุคความเสียแล้วคงเรียกร้องได้ตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๔๘๙ ถึงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๙๐ เป็นจำนวนเงิน ๑๓๕๐ บาท
จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยใช้เงิน ๑๓๕๐ บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ย

Share