แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤติการณ์ที่แสดงว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๐๗ เวลากลางคืน จำเลยสมคบกันใช้ปืนยิงนายมนัสหรือน้อย วิเศษสรรค์ ถึงแก่ความตาย โดยจำเลยที่ ๑ เป็นผู้จ้างวานใช้ให้จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ยิงนายมนัส โดยจำเลยที่ ๑ มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยวางแผนฆ่าผู้ตายเพื่อหวังที่จะได้นางบุญธรรม วิเศษสรรค์ ภริยาผู้ตายมาเป็นภริยาและครอบครองทรัพย์สมบัติของผู้ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘,๒๘๙,๘๓
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘,๘๓ ให้จำคุกไว้คนละ ๒๐ ปี จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงให้จำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้มีกำหนด ๑๓ ปี ๔ เดือน ให้ยกฟ้อง ปล่อยจำเลยที่ ๓
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ และที่ ๒
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ ได้จ้างจำเลยที่ ๒ ให้ยิงผู้ตาย และจำเลยที่ ๒ ได้ยิงผู้ตายตายดังที่ตนได้รับจ้างมา และข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๐๗ จำเลยมาดื่มเบียร์ที่ร้านผู้ตาย จำเลยที่ ๑ ยังได้พูดเปรย ๆ ว่า ผู้ตายตายเสียคนหนึ่ง ร้านนี้ก็น่าดู ถ้าผู้ตายมาจะยิงเสีย ๓ นัด
การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙(๔) ประกอบด้วยมาตรา ๘๓ และ ๘๔ แต่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘,๘๓ โจทก์พอใจไม่ได้อุทธรณ์ ปัญหาข้อนี้เป็นอันยุติแต่ศาลชั้นต้น นับว่าเป็นคุณแก่จำเลยดีแล้ว
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น