แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มาตรา 5 มีความมุ่งหมายเพียงว่า ความผิดเกี่ยวกับเช็คที่เกิดขึ้นแล้วตามมาตรา 3 นั้น ให้ถือว่าเป็นอันเลิกกันในเมื่อผู้ออกเช็คได้นำเงินตามจำนวนในเช็คไปชำระแก่ผู้ทรงเช็คหรือธนาคารภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน ฉะนั้น ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเมื่อไร จึงเป็นหน้าที่ของผู้ออกเช็คที่จะต้องติดต่อสอบถามเองไม่ใช่หมายความว่าธนาคารจะต้องบอกกล่าวให้ผู้ ออกเช็คทราบถึงการปฏิเสธไม่จ่ายเงินเสียก่อน ความผิดตามมาตรา 3 จึงจะเกิดขึ้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คธนาคารแหลมทอง จำกัด สาขาราชวงศ์ รวม ๔ ฉบับ เมื่อขอรับเงินตามเช็คแล้วธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีฝากของจำเลยแล้ว ทั้งนี้ โดยจำเลยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และออกเช็คโดยขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวาด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ จำคุก ๑ เดือน
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายหลายประการ
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาว่าธนาคารยังไม่ได้แจ้งให้จำเลยทราบเรื่องการขัดข้องไม่จ่ายเงินตามมาตรา ๕ จำเลยยังไม่มีผิดนั้นแล้ว เห็นว่ากฎหมายมาตรานี้มีความมีความมุ่งหมายเพียงว่า ถ้าผู้กระทำผิดได้นำเงินไปใช้ภายในกำหนด เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องติดต่อสอบถามธนาคารว่าได้ปฏิเสธไม่จ่ายเงินเมื่อไร ไม่ใช่ธนาคารต้องแจ้งให้จำเลย (ผู้ออกเช็ค) ทราบเสียก่อนความผิดจึงจะเกิดขึ้นความเข้าใจของจำเลย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
ฯลฯ
พิพากษายืน